ติดตามค่าเงินปอนด์วันนี้ (GBP/USD) วิเคราะห์แนวโน้มค่าเงินปอนด์ การเคลื่อนไหวล่าสุด และปัจจัยเศรษฐกิจสหรัฐฯ-อังกฤษ พร้อมกลยุทธ์ลงทุน Forex เชิงลึก
28 ส.ค. ค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิง (Pound Sterling – GBP) ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) ที่ระดับใกล้ 1.3500 ในช่วงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นักลงทุนและนักเก็งกำไรกำลังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ โดยเฉพาะ ตัวเลข GDP ไตรมาส 2 (ครั้งที่สอง) รวมถึง ข้อมูลเงินเฟ้อ PCE และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อแนวโน้มการตัดสินใจของ ธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve – Fed)
1. ปัจจัยจากฝั่งสหรัฐฯ: เศรษฐกิจชะลอตัว – เฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย
John Williams ประธานเฟดนิวยอร์ก ได้กล่าวว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ “ช่วงการปรับตัว” และอาจนำไปสู่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ แม้ว่า Williams ไม่ได้ยืนยันชัดเจนว่าจะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน แต่ตลาดกลับตีความว่านโยบายการเงินของเฟดอาจกำลังเปลี่ยนทิศทาง
ข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ชี้ว่ามีโอกาสสูงถึง 87% ที่เฟดจะประกาศลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป สิ่งนี้ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงเล็กน้อย และกลายเป็นปัจจัยที่ช่วยพยุงค่าเงินปอนด์ไม่ให้ร่วงแรง
2. ปัจจัยจากฝั่งอังกฤษ: เงินเฟ้อสูง – BoE ส่งสัญญาณ “คงดอกเบี้ย”
ในขณะที่ฝั่งอังกฤษเอง เศรษฐกิจยังคงเผชิญแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ โดย ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหราชอาณาจักรเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 3.8% เมื่อเทียบรายปี ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะยังไม่ลดดอกเบี้ยในปีนี้ Catherine Mann กรรมการนโยบายการเงินของ BoE ก็ได้ย้ำว่าอัตราดอกเบี้ยควรถูกตรึงในระดับสูงต่อไป เพื่อควบคุมแรงกดดันด้านราคา
3. สถานการณ์การเมืองและความเชื่อมั่นนักลงทุน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ หลังจากมีข่าวว่า Lisa Cook ผู้ว่าการเฟดถูกปลดออกจากตำแหน่งโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเรื่องนี้อาจทำให้ตลาดมองว่าความเป็นอิสระของเฟดถูกกระทบ และอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในระยะยาว
ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบแถว 1.3500 ต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยตลาดกำลังรอการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญจากสหรัฐฯ ได้แก่
GDP ไตรมาส 2 (ครั้งที่สอง)
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Index)
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงเล็กน้อย หลังจาก John Williams ประธานเฟดนิวยอร์ก ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ช่วง “ปรับตัว” และอาจจำเป็นต้องมีการปรับลดดอกเบี้ยในอนาคต แม้ว่าเขาจะยังไม่ยืนยันว่าจะลดในการประชุมเดือนกันยายน
แนวรับสำคัญ: 1.3400 (ต่ำสุดวันที่ 11 ส.ค.)
แนวต้านสำคัญ: 1.3580 (เส้น Neckline ของแพทเทิร์น H&S กลับด้าน) และ 1.3790 (จุดสูงสุด 1 ก.ค.)
- EMA 20 วัน: อยู่ที่ 1.3468 ซึ่งค่าเงินปอนด์กำลังเคลื่อนไหวใกล้เส้นนี้ บ่งชี้ถึงแนวโน้มไซด์เวย์
- RSI 14 วัน: อยู่ในช่วง 40-60 สะท้อนถึงความผันผวนที่เริ่มหดตัว
รูปแบบกราฟกำลังบ่งชี้ว่า GBP/USD อาจเข้าสู่ แนวโน้มฟื้นตัวเชิงบวก หากทะลุแนวต้าน 1.3580 ได้สำเร็จ
ระยะสั้น (1-2 สัปดาห์)
คาดว่าค่าเงินปอนด์จะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 1.3400 – 1.3600 นักลงทุนรอตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้
ระยะกลาง (1-3 เดือน)
หากเฟดปรับลดดอกเบี้ยจริงตามที่ตลาดคาดการณ์ ดอลลาร์จะอ่อนค่าลง และหนุนให้ค่าเงินปอนด์แข็งค่ากลับไปทดสอบ 1.3790 ได้อีกครั้ง
ปัจจัยเสี่ยง : เงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่อาจสูงกว่าคาด → ดอลลาร์แข็งค่า กดดันปอนด์, ความไม่แน่นอนทางการเมืองอังกฤษ เช่น Brexit และการเมืองภายใน → เพิ่มแรงกดดันต่อ GBP
นักเก็งกำไรระยะสั้น
Buy ถ้าทะลุแนวต้าน 1.3580 โดยมีเป้าหมาย 1.3700-1.3790
Sell ถ้าหลุด 1.3400 โดยมีเป้าหมาย 1.3300
นักลงทุนระยะกลาง
หากเชื่อว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย สามารถทยอยสะสม Long ใกล้ 1.3450-1.3500
บริหารความเสี่ยง : ควรกำหนด Stop Loss ชัดเจน เนื่องจาก GBP/USD เป็นคู่เงินที่มีความผันผวนสูง
ภาพรวมตลาดเงินในช่วงนี้สะท้อนถึงความไม่แน่นอน นักลงทุนยังคงรอดูทิศทางจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กำลังจะประกาศ หากเฟดตัดสินใจลดดอกเบี้ยจริงตามที่ตลาดคาด ปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) อาจได้แรงหนุนให้ปรับตัวขึ้น แต่ในทางกลับกัน หากเงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงกว่าที่คาด ดอลลาร์จะแข็งค่ากลับมาและกดดันปอนด์อีกครั้ง
ดังนั้น ผู้ที่ติดตาม ค่าเงิน GBP/USD ควรเฝ้าระวังปัจจัยเศรษฐกิจทั้งจากอังกฤษและสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพราะทุกตัวเลขที่ประกาศออกมา ล้วนมีผลต่อทิศทางค่าเงินในอนาคต
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
สำรวจพลวัตล่าสุดของอัตราแลกเปลี่ยน USD/CNY ปัจจัยที่มีอิทธิพล และการคาดการณ์ในอนาคตในการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมนี้
2025-08-28การส่งออกของญี่ปุ่นที่ลดลงส่งผลให้ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากค่าเงินเยนเคลื่อนไหวในแนวราบ อัตราเงินเฟ้อลดลง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งสูงสุดในรอบ 17 ปีในเดือนนี้
2025-08-28ราคาน้ำมันดิบร่วงลงในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนกำลังพิจารณาความต้องการเชื้อเพลิงของสหรัฐฯ ใกล้สิ้นสุดฤดูร้อน และการเปลี่ยนแปลงอุปทานน้ำมันดิบจากภาษีนำเข้ารองของอินเดีย
2025-08-28