5 คำแนะนำสำหรับคนที่ต้องการเทรด Bullish Bearish Flag

2025-06-16

Bullish Bearish Flag หรือ รูปแบบธงขาขึ้นและธงขาลง ถือเป็นหนึ่งในสัญญาณต่อเนื่องที่น่าเชื่อถือมากที่สุดในเชิงวิเคราะห์ทางเทคนิค หากสามารถระบุและเทรดจากรูปแบบเหล่านี้ได้ จะช่วยให้นักเทรดสามารถจับจังหวะการเคลื่อนไหวแรง ๆ ในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน และบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น


5 เคล็ดลับสำคัญเกี่ยวกับ Bullish Bearish Flag ที่นักเทรดควรรู้

Bullish and Bearish Flag

1. เข้าใจโครงสร้างของรูปแบบธง (Flag Patterns)


รูปแบบธงประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 2 ส่วน ได้แก่ เสาธง (Flagpole) และ ตัวธง (Flag) เสาธง คือการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงและชัดเจนในทิศทางเดียว — ขึ้นสำหรับ Bullish Flag และลงสำหรับ Bearish Flag ตัวธง เป็นช่วงของการพักฐานหรือแกว่งตัวที่มีลักษณะเอียงสวนทางกับแนวโน้มหลัก มักมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมหรือช่องราคาแคบ ๆ


  • Bullish Flag: เกิดหลังจากราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างรุนแรง (เสาธง) จากนั้นเข้าสู่ช่วงพักตัวลงเล็กน้อยหรือตะแคงด้านข้าง (ตัวธง) ก่อนที่จะเบรกขึ้นต่อ

  • Bearish Flag: เกิดหลังจากราคาลดลงแรง (เสาธง) แล้วเข้าสู่ช่วงพักตัวขึ้นเล็กน้อยหรือตะแคง ก่อนเบรกลงต่อ


การเข้าใจโครงสร้างนี้อย่างถ่องแท้จะช่วยให้นักเทรดแยกแยะรูปแบบธงที่แท้จริงออกจากการพักฐานทั่วไปอื่น ๆ ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น


2. รอการยืนยันก่อนเข้าเทรด


ความอดทนเป็นสิ่งสำคัญในการเทรดรูปแบบธง (Flag Patterns) อย่าเพิ่งเปิดออเดอร์จนกว่าราคาจะ “Breakout” จากขอบเขตของธงไปในทิศทางเดียวกับแนวโน้มเดิม:


  • สำหรับ Bullish Flag: รอให้ราคาทะลุแนวต้านของตัวธงขึ้นไปก่อน

  • สำหรับ Bearish Flag: รอให้ราคาทะลุแนวรับของตัวธงลงมาก่อน


การยืนยันมักมาพร้อมกับปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่พุ่งสูงขึ้น แสดงถึงแรงเข้าซื้อหรือขายจากตลาดอย่างจริงจัง การเข้าเทรดเร็วเกินไปก่อนเกิดการยืนยัน อาจทำให้นักเทรดเจอกับ “การเบรกหลอก” (False Breakouts) และเกิดการขาดทุนโดยไม่จำเป็น


3. กำหนดระดับ Stop-Loss และ Take-Profit อย่างมีกลยุทธ์


การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญมากเมื่อเทรดตามรูปแบบธง เพราะอาจมีการเบรกหลอกเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นควรตั้ง Stop-Loss และ Take-Profit อย่างรอบคอบ:


  • Bullish Flag: วาง Stop-Loss ไว้ต่ำกว่าขอบล่างของธง

  • Bearish Flag: วาง Stop-Loss ไว้สูงกว่าขอบบนของธง


จุด Take-Profit ที่นิยมใช้คือ วัดความสูงของ “เสาธง” (Flagpole) แล้วนำระยะนั้นไปทาบจากจุดที่ราคาเบรกออกจากธง เพื่อกำหนดเป้าหมายกำไรที่เหมาะสมตามแรงส่งของแนวโน้ม


4. ใช้ปริมาณการซื้อขาย (Volume) เพื่อยืนยันรูปแบบ


การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยยืนยันความแข็งแกร่งของรูปแบบธงได้:


  • Flagpole: ควรมีปริมาณการซื้อขายสูงหรือเพิ่มขึ้น แสดงถึงแรงโมเมนตัมที่แข็งแกร่ง

  • Flag: ปริมาณการซื้อขายควรลดลง สื่อถึงการหยุดพักของแนวโน้ม

  • Breakout: ควรมีการพุ่งขึ้นของ Volume เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าการเคลื่อนไหวนั้นจริงและมีโอกาสไปต่อ


หากในจังหวะเบรกเอาท์ปริมาณการซื้อขายยังคงต่ำ ควรระวัง เพราะอาจเป็นการเบรกหลอกหรือแนวโน้มที่ไม่แข็งแรง


5. ปรับให้เข้ากับบริบทของตลาดและการเทรด

Bullish and Bearish Flag Tips

Flag Patterns จะมีความน่าเชื่อถือสูงที่สุดในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจนและแข็งแรง ดังนั้นควรประเมินบริบทของตลาดโดยรวมก่อนตัดสินใจเทรดเสมอ:


  • ระบุแนวโน้มก่อนหน้า: เทรดธงขาขึ้น (Bullish Flag) เฉพาะในตลาดขาขึ้นที่ชัดเจน และเทรดธงขาลง (Bearish Flag) ในตลาดขาลงที่ชัดเจนเท่านั้น

  • ติดตามการเทรดของคุณ: แม้จะเข้าออเดอร์แล้ว ควรติดตามการเคลื่อนไหวของราคาและปริมาณการซื้อขายอย่างใกล้ชิด เพราะตลาดอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รูปแบบอาจล้มเหลวได้ ดังนั้นควรปรับระดับ stop-loss หรือ take-profit เมื่อเห็นสัญญาณกลับทิศหรืออ่อนแรงในตลาด


โบนัส: ประเภทของรูปแบบธงขาขึ้นและขาลง


  • Range flags: ราคารวมตัวในกรอบแคบด้านข้าง ไม่มีความชัน

  • Channel flags: ราคารวมตัวในช่องทางลาดเอียง – ลาดลงสำหรับธงขาขึ้น, ลาดขึ้นสำหรับธงขาลง

  • Wedge flags: ราคารวมตัวโดยมีเส้นแนวโน้มบรรจบกัน แสดงถึงแรงกดดันที่สะสมก่อนการเบรกเอาต์


การรู้จักรูปแบบต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยให้นักเทรดมองเห็นโอกาสมากขึ้น และหลีกเลี่ยงการตีความผิดพลาดของรูปแบบธง


บทสรุป


รูปแบบ Bullish Bearish Flag คือเครื่องมือทรงพลังสำหรับนักเทรดที่ต้องการเกาะกระแสแนวโน้มและบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเข้าใจโครงสร้างของรูปแบบ รอการยืนยันก่อนเข้าซื้อ-ขาย ตั้งจุดตัดขาดทุนและเป้าหมายกำไรอย่างมีกลยุทธ์ ใช้ปริมาณการซื้อขาย เพื่อยืนยันสัญญาณ และติดตามบริบทของตลาดอย่างใกล้ชิด นักเทรดสามารถเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จจากรูปแบบการเคลื่อนไหวต่อเนื่องคลาสสิกนี้ได้อย่างมาก


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
วิธีเทรดตามกลยุทธ์ Break and Retest เหมือนมืออาชีพ
Bullish Flag คืออะไร? เทคนิคทำกำไรอย่างมือโปร
กราฟ XAUUSD พลิกเกมทองคำ เจาะลึกเทคนิคทำกำไร
กลยุทธ์เทรด Inverse Fair Value Gap ในแนวคิด SMC
Stochastic Oscillator ตั้งค่าอย่างไรให้แม่น เคล็ดลับสำหรับนักเทรดทุกระดับ