หุ้น TNXP ปี 2025 น่าลงทุนหรือควรเลี่ยง?

Tonix Pharmaceuticals Holding Corp. (NASDAQ: TNXP) ได้รับความสนใจอย่างมากในปี 2025 โดยนักลงทุนต่างจับตาดูการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นและแนวโน้มในอนาคตอย่างใกล้ชิด

ณ วันที่ 29 เมษายน 2025 หุ้น TNXP มีราคาซื้อขายอยู่ที่ 17.03 ดอลลาร์ต่อหุ้น ลดลง 4.43% จากวันก่อนหน้า

แม้จะมีความผันผวนในช่วงหลัง แต่นักวิเคราะห์และนักลงทุนยังคงประเมินว่า TNXP จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจในช่วงเดือนต่อ ๆ ไป

ภาพรวมทางการเงินของหุ้น TNXP

ในปี 2024 Tonix ทำรายได้สุทธิอยู่ที่ 10.1 ล้านดอลลาร์ โดยส่วนใหญ่เป็นรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์รักษาไมเกรนและแม้ยอดเงินสดในมือจะลดลงเล็กน้อยจากปีที่แล้ว (เหลือ 98.8 ล้านดอลลาร์จาก 102 ล้านดอลลาร์) แต่บริษัทยังคงรักษาสถานะทางการเงินได้ดี

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เหลือ 60.9 ล้านดอลลาร์ จาก 102 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทยังลดการลงทุนด้านสินทรัพย์ถาวรลงอย่างมากเหลือเพียง 0.1 ล้านดอลลาร์ จาก 29.1 ล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า

ที่สำคัญ Tonix ไม่มีหนี้สินคงค้างหลังจากปิดบัญชีเงินกู้จำนองเรียบร้อยแล้ว และในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 บริษัทสามารถระดมทุนเพิ่มเติมได้อีก 30.4 ล้านดอลลาร์ จากการเสนอขายหุ้นแบบ at-the-market ทำให้บริษัทมั่นใจว่าจะมีเงินเพียงพอสำหรับใช้ดำเนินงานไปจนถึงไตรมาสแรกของปี 2026

สำหรับปี 2025 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 71.4 ล้านดอลลาร์ และอาจขาดทุนสุทธิราว 91.1 ล้านดอลลาร์ ซึ่งแม้จะยังไม่มีกำไร แต่ก็เป็นผลจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องในงานวิจัยและพัฒนา แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการผลักดันผลิตภัณฑ์ใน pipeline สู่ตลาดในอนาคต

การคาดการณ์ราคาหุ้น TNXP ปี 2025: มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ

1. แนวโน้มทางเทคนิคและการประเมินทางการเงิน

หุ้น TNXP ในปี 2025 ยังคงแสดงความผันผวนพอสมควร โดยเมื่อวันที่ 28 เมษายน ราคาหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง $16.71 ถึง $17.66 อย่างไรก็ตาม หากมองภาพรวมทางเทคนิค ราคายังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งอาจสะท้อนถึงโอกาสในการเติบโตในอนาคต

จากข้อมูลของ CoinCodex คาดว่าหุ้น TNXP จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง $16.84 ถึง $17.02 ตลอดทั้งปี โดยมีราคาเฉลี่ยราว $16.91 แม้จะดูไม่หวือหวาในระยะสั้น แต่ปัจจัยสำคัญยังคงอยู่ที่ผลการทดลองทางคลินิกและการอนุมัติผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะส่งผลต่อแนวโน้มในระยะยาว

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ประเมินว่ารายได้ของบริษัทอาจเติบโตอย่างก้าวกระโดดหากโครงการทางคลินิกประสบความสำเร็จ โดยคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น $635.1 ล้านในปี 2026 และแตะ $846.2 ล้านในปี 2027

2. มุมมองนักวิเคราะห์และการคาดการณ์ในระยะยาว

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงมองหุ้น TNXP ในแง่บวก โดยข้อมูลจาก Public.com ระบุว่า 71% ของนักวิเคราะห์แนะนำ “Strong Buy” และอีก 29% แนะนำ “Buy” โดยไม่มีใครแนะนำให้ “ถือ” หรือ “ขาย” ขณะที่ราคาเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ $17.21 ซึ่งใกล้เคียงกับราคาตลาดปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายมีการประเมินที่ค่อนข้างมองโลกในแง่ดีมาก เช่น TradingView ที่คาดว่าหุ้นอาจพุ่งไปถึง $70.00 ซึ่งหมายถึงการเพิ่มขึ้นมากกว่า 300% หากการทดลองทางคลินิกมีความคืบหน้าและได้รับการอนุมัติจาก FDA

ที่น่าจับตามากคือการคาดการณ์จาก StockScan ที่ประเมินว่าราคาหุ้นเฉลี่ยในปี 2025 อาจอยู่ที่ $2,984.15 และอาจทะยานถึง $3,277.07 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากและควรใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่ยังอยู่ในระยะพัฒนายังมีความเสี่ยงสูง

Fintel เองก็ให้การประเมินที่หลากหลาย โดยตั้งเป้าหมายราคากลางไว้ที่ $414.80 พร้อมกรอบคาดการณ์กว้างตั้งแต่ $50.50 ถึง $1,155.00 แสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอนและความผันผวนที่นักลงทุนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

เหตุผลที่ผู้เชี่ยวชาญยังคงมองหุ้น TNXP ในแง่บวก

หนึ่งในเหตุผลหลักที่หุ้น TNXP ได้รับความสนใจคือความคืบหน้าในการพัฒนายา TNX-102 SL ซึ่งเป็นยารูปแบบอมใต้ลิ้นที่มีสารออกฤทธิ์ cyclobenzaprine HCl ใช้รักษาโรคไฟโบรมัยอัลเจีย (Fibromyalgia) ปัจจุบันบริษัทได้ยื่นขอขึ้นทะเบียนกับองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) แล้ว และมีกำหนดวันพิจารณาภายใต้กฎหมาย PDUFA ในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 หากได้รับอนุมัติ TNX-102 SL จะกลายเป็นยาตัวแรกในรอบกว่า 15 ปี ที่ออกมารองรับการรักษาโรคนี้ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อกลุ่มผู้ป่วยในสหรัฐฯ กว่า 10 ล้านคน ที่ยังไม่มีทางเลือกการรักษาที่ตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริง

นอกจาก TNX-102 SL แล้วบริษัทยังพัฒนายาอีกหลายตัวที่มีศักยภาพ เช่น TNX-1500 ซึ่งเป็นแอนติบอดีเฉพาะทางสำหรับป้องกันการปฏิเสธอวัยวะหลังการปลูกถ่าย และเพิ่งผ่านการทดลองในคนระยะที่ 1 ด้วยผลลัพธ์เชิงบวก

อีกผลิตภัณฑ์ที่น่าจับตา คือวัคซีน TNX-801 สำหรับโรคฝีดาษลิง (mpox) ซึ่งอยู่ในขั้นทดลองก่อนคลินิก และได้รับเงินทุนสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อเร่งการพัฒนา

ที่สำคัญ Tonix ยังได้สัญญาวิจัยจากกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ มูลค่า 34 ล้านดอลลาร์ สำหรับการพัฒนายาต้านไวรัสแบบครอบคลุม ภายใต้กรอบระยะเวลา 5 ปี ซึ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นของภาครัฐในศักยภาพด้านวิจัยและพัฒนาของบริษัท

ความเสี่ยงและข้อควรพิจารณา

การลงทุนในหุ้น TNXP มีความเสี่ยงหลายประการ ได้แก่

• ผลลัพธ์การทดลองทางคลินิก: ความสำเร็จของโครงการวิจัยของ Tonix ขึ้นอยู่กับผลการทดลองทางคลินิกที่เป็นบวก

• การอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล: การได้รับการอนุมัติจาก FDA ถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด

• การแข่งขันในตลาด: อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพมีการแข่งขันสูง โดยมีหลายบริษัทที่พัฒนายารักษาโรคในกลุ่มเดียวกัน

• ความมั่นคงทางการเงิน: ค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาที่ต่อเนื่อง อาจทำให้บริษัทต้องระดมทุนเพิ่มเติมในอนาคต

สรุป

หุ้น TNXP เป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ แม้ว่าจะมีความเสี่ยงอยู่บ้างด้วยสถานะการเงินที่แข็งแรง มีเงินสดในมือมากและไม่มีหนี้สิน รวมถึงโครงการวิจัยและพัฒนาหลากหลายที่พร้อมสร้างการเติบโตในอนาคต

แม้ว่าราคาหุ้นจะยังมีความผันผวน แต่การตัดสินใจของ FDA ที่จะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ถือเป็นจุดสำคัญที่จะมีผลอย่างมากต่อผลประกอบการของบริษัท และอาจส่งผลต่อผลตอบแทนของนักลงทุนอย่างชัดเจนด้วยเช่นกัน

คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ