Hedging forex คืออะไร? กลยุทธ์บริหารความเสี่ยงง่าย ๆ

ในโลกของการเทรด Forex ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การบริหารความเสี่ยงถือเป็นสิ่งสำคัญ การทำ Hedging forex เป็นกลยุทธ์ที่ผู้เทรดใช้เพื่อชดเชยการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นช่วยปกป้องการลงทุนจากความผันผวนของตลาดที่ไม่แน่นอน

แม้ว่าการเทรด Forex จะมีโอกาสในการทำกำไรที่น่าสนใจ แต่ก็มีความเสี่ยงในตัวเองเนื่องจากลักษณะที่มีความผันผวนของตลาดเงิน เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนเหล่านี้ นักเทรดมักใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เช่น การทำ Direct Hedging, Multiple Currency Hedging หรือการใช้สัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward Contracts) เป็นต้น

Hedging Forex คืออะไร?

Hedging Forex คือการเปิดตำแหน่งใหม่เพื่อชดเชยการขาดทุนจากตำแหน่งเดิม ซึ่งหมายความว่า ถ้าตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางที่ไม่ตรงกับการเทรดที่เราเปิดไว้ การทำ Hedging ผ่านการเปิดตำแหน่งตรงข้ามหรือการเทรดสกุลเงินที่เกี่ยวข้องจะช่วยลดหรือชดเชยการขาดทุนนั้นได้

การทำ Hedging ไม่ได้มุ่งหวังให้ได้กำไรสูงสุด แต่จะช่วยลดความเสี่ยง ควบคุมผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้น และช่วยรักษาเงินทุนในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนหรือไม่แน่นอน

อย่าลืมว่าการทำ Hedging ไม่สามารถขจัดความเสี่ยงได้ทั้งหมด แต่จะทำให้ผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางที่ไม่เอื้ออำนวยลดลงได้

การทำ Hedging เมื่อเทรด Forex

การทำ Hedging ไม่ใช่กลยุทธ์ที่ใช้ตลอดเวลา แต่ควรใช้ในช่วงที่ตลาดมีความเสี่ยงสูงหรือเมื่อต้องการลดความเสี่ยงในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ตัวอย่างเช่น การทำ Hedging มักจะเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง ซึ่งอาจเกิดจากการประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญ เช่น การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร หรือเหตุการณ์ทางการเมืองที่อาจทำให้ราคาคู่เงินเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและไม่สามารถคาดเดาได้

นักเทรดยังมักใช้ Hedging เมื่อมีตำแหน่งลงทุนระยะยาวและต้องการปกป้องกำไรหรือลดการขาดทุน โดยไม่ต้องปิดการเทรดก่อนเวลา ตัวอย่างเช่น หากนักเทรดถือหุ้นใน GBP/USD ที่มีกำไรแต่คาดว่าจะมีการอ่อนค่าของสกุลเงินในระยะสั้น พวกเขาอาจเปิดตำแหน่งขายชั่วคราวเพื่อป้องกันการถดถอยในขณะที่ยังคงยึดมั่นในกลยุทธ์การลงทุนเดิม

อีกกรณีที่เหมาะกับการทำ Hedging คือเมื่อมีความไม่แน่นอนในคู่เงินที่เกี่ยวข้องกัน หรือเมื่อมีตำแหน่งหลายตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินเดียวกัน การทำ Hedging ในกรณีนี้จะช่วยป้องกันการขาดทุนจากการเคลื่อนไหวของสกุลเงินเดียวที่ไม่คาดคิด

นอกจากนี้ การทำ Hedging ยังเหมาะสมเมื่อเทรดเดอร์มีตำแหน่งขนาดใหญ่ เพราะแม้การเคลื่อนไหวของราคาที่เล็กน้อยก็อาจทำให้เกิดการขาดทุนมหาศาล การทำ Hedging จึงทำหน้าที่เป็นเครื่องมือประกันทางการเงิน ช่วยให้การเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่เป็นไปตามคาดไม่สามารถทำลายกำไรหรือทุนทั้งหมดได้

5 กลยุทธ์การทำ Hedging Forex ง่าย ๆ ที่นักเทรดควรรู้

1. Direct Hedging

การทำ Direct Hedging หรือที่เรียกว่าการทำ Hedging แบบง่าย เป็นกลยุทธ์ที่ตรงไปตรงมาที่สุด โดยการเปิดตำแหน่งที่ตรงกันข้ามกับการเทรดที่มีอยู่ในคู่เงินเดียวกัน เช่น หากนักเทรดถือตำแหน่งซื้อ EUR/USD อยู่ก็สามารถเปิดตำแหน่งขายในคู่เดียวกันในขนาดที่เท่ากันได้

กลยุทธ์นี้ช่วยล็อคกำไรหรือขาดทุน และสามารถป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดได้ แต่ต้องระวังว่าไม่ทุกโบรกเกอร์จะอนุญาตให้ทำ Direct Hedging ดังนั้น นักเทรดควรตรวจสอบกับแพลตฟอร์มที่ใช้ก่อนว่ารองรับการทำ Hedging ประเภทนี้หรือไม่

2. Multiple Currency Hedging

กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการเปิดตำแหน่งในคู่เงินที่มีความสัมพันธ์กัน ตัวอย่างเช่น หากนักเทรดถือหุ้นซื้อ GBP/USD และต้องการป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุน พวกเขาอาจเปิดตำแหน่งขายใน EUR/USD ซึ่งถือว่ามีความสัมพันธ์กันในทางบวก

การทำเช่นนี้ช่วยให้การเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นใจในคู่หนึ่งสามารถถูกชดเชยด้วยการเคลื่อนไหวที่ดีในอีกคู่หนึ่ง อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ต้องการความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสกุลเงินและพฤติกรรมของตลาด เพื่อให้สามารถใช้กลยุทธ์นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. การใช้ออปชั่น (Options) ในการทำ Hedging

ออปชั่นให้สิทธิแก่นักเทรดในการซื้อหรือขายสกุลเงินในราคาที่กำหนดภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยไม่ต้องผูกมัด หากนักเทรดต้องการป้องกันการลดลงของมูลค่าสกุลเงิน ก็สามารถใช้ Put Options หรือหากต้องการป้องกันการเพิ่มขึ้นของมูลค่าก็สามารถใช้ Call Options ได้

ออปชั่นมีความยืดหยุ่น ช่วยให้สามารถจัดการความเสี่ยงได้โดยไม่จำเป็นต้องเปิดตำแหน่ง เว้นแต่จะมั่นใจว่าการเคลื่อนไหวของราคาเป็นไปในทิศทางที่ดี อย่างไรก็ตาม การใช้กลยุทธ์นี้จะต้องคำนึงถึงค่า Premium ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายสำหรับการใช้สิทธิในออปชั่น

4. สัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward Contracts)

สัญญาซื้อหรือขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าคือข้อตกลงในการซื้อหรือขายสกุลเงินในราคาที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้า โดยจะทำธุรกรรมในวันที่กำหนดในอนาคต สัญญานี้สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของนักเทรด ทั้งในเรื่องของจำนวนเงินและวันที่ต้องชำระ

การใช้สัญญานี้ช่วยให้นักเทรดสามารถล็อคอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่ถูกกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่ไม่คาดคิด อย่างไรก็ตาม สัญญานี้ก็มีข้อจำกัด เพราะนักเทรดต้องยึดตามอัตราที่ตกลงไว้ ซึ่งอาจไม่เป็นประโยชน์หากตลาดเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ดีกว่า

5. คำสั่ง Stop-Loss

แม้ว่าคำสั่ง Stop-Loss จะไม่ใช่กลยุทธ์ Hedging โดยตรง แต่ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดการความเสี่ยง โดยการกำหนดจุดที่ต้องการออกจากการเทรดล่วงหน้า นักเทรดสามารถจำกัดการขาดทุนได้ หากตลาดเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่เป็นประโยชน์ วิธีนี้ช่วยให้การขาดทุนไม่เกินขอบเขตที่ตั้งไว้ แม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง

Hedging Forex ถูกกฎหมายหรือไม่?

การทำ Hedging Forex ถือเป็นการทำที่ถูกกฎหมายในหลายประเทศทั่วโลก เช่น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย แคนาดา และหลายประเทศในสหภาพยุโรป ซึ่งอนุญาตให้ใช้กลยุทธ์ Hedging หลากหลายรูปแบบ และยังสนับสนุนการทำผ่านแพลตฟอร์มและเครื่องมือการเทรดที่ทันสมัย

อย่างไรก็ตาม ในสหรัฐอเมริกา คณะกรรมการการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า (CFTC) และสมาคมฟิวเจอร์สแห่งชาติ (NFA) ได้กำหนดข้อจำกัดบางประการเกี่ยวกับการทำ Hedging โดยเฉพาะในบัญชี Forex ของผู้ค้าปลีก เช่น การทำ Direct Hedging ที่นักเทรดเปิดทั้งตำแหน่งซื้อและขายในคู่เงินเดียวกันพร้อมกัน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะไม่ได้รับอนุญาตในสหรัฐฯ แต่โบรกเกอร์ในสหรัฐฯจะใช้กฎ "first in, first out" (FIFO) ซึ่งกำหนดให้นักเทรดต้องปิดตำแหน่งที่เปิดก่อนเสมอ

ถึงแม้ว่าจะมีกฎระเบียบที่แตกต่างกันตามแต่ละภูมิภาค แต่ Hedging Forex ยังคงเป็นกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่ได้รับการยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก

สรุป

การทำ Hedging Forex อย่างมีประสิทธิภาพนั้นต้องเริ่มจากการเข้าใจความเสี่ยงและความสามารถในการรับความเสี่ยงของตัวเอง นักเทรดควรประเมินสถานะการเทรด ปรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และเลือกเครื่องมือ Hedging ที่เหมาะสมกับกลยุทธ์ของตนเอง

การใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เช่น Direct Hedging, Multiple Currency Hedging, ออปชั่น, และสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสามารถช่วยป้องกันการลงทุนจากความผันผวนของตลาด แม้ว่าการทำ Hedging จะไม่สามารถรับประกันกำไรได้ แต่มันเป็นวิธีที่ช่วยจัดการความเสี่ยงและสร้างโครงสร้างให้การเทรดมีความมั่นคงในระยะยาว

คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ