เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-12
ในปี 2025 ที่ผ่านมาเป็นปีที่ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเต็มไปด้วยความผันผวน ตั้งแต่สงครามภาษีที่พลิกกลับไปกลับมา ราคาทองคำที่ทำจุดสูงสุดใหม่ ไปจนถึงกระแส AI ที่กำลังเปลี่ยนโลกการเงินอย่างถาวร แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ ความสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐกิจสหรัฐฯ กับทิศทางของดอลลาร์ ซึ่งยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการวิเคราะห์ตลาด Forex
หากคุณกำลังมองหาโอกาสในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนปี 2026 บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจ แนวโน้มสำคัญที่จะกำหนดทิศทางดอลลาร์ พร้อมกรอบการคาดการณ์ที่ชัดเจนสำหรับการวางแผนการเทรด
ในปี 2025 ดอลลาร์ถูกกดดันหนักในช่วงต้นปี เมื่อตลาดตั้งคำถามกับความพิเศษ (exceptionalism) ขอเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่เมื่อเข้าสู่ครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับไม่อ่อนแออย่างที่ตลาดคาดการณ์ ความแข็งแกร่งที่ยืนยาวกลายเป็นแรงหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่ากลับมา สำหรับปี 2026 เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังได้รับแรงหนุนจากนโยบายการคลัง (Fiscal Policy) ที่ผ่อนคลาย ซึ่งหมายความว่า การอ่อนค่าทันทีของดอลลาร์ในช่วงต้นปีอาจไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้น
สำหรับนักเทรด Forex นี่คือจังหวะที่ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เช่น GDP, การจ้างงาน และการบริโภค เพราะตัวเลขเหล่านี้จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าดอลลาร์จะยังคงแข็งแกร่งต่อไปหรือไม่
เงินทุนไหลเข้าสหรัฐฯ จาก AI กว่า 7% ของ GDP ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ขับเคลื่อนตลาดหุ้นและดอลลาร์ในปี 2025 คือ กระแสการลงทุนใน AI ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI กระตุ้นให้เงินทุนไหลเข้าสหรัฐฯ ทั้งในตลาดหุ้นและตราสารหนี้มากกว่า 7% ของ GDP
โอกาสสำหรับนักเทรด: ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการลงทุนของบริษัทเทคฯ ชั้นนำอย่าง Google, Microsoft, NVIDIA และคู่แข่งจากประเทศอื่นๆ เพราะจะเป็นตัวกำหนดทิศทางเงินทุนระหว่างประเทศ
ถึงแม้ว่า Fed จะย้ำว่าจะพึ่งพาข้อมูลเศรษฐกิจเป็นหลัก (Data-dependent) แต่ ตำแหน่งประธาน Fed ที่จะหมดวาระในเดือนพฤษภาคม 2026 กำลังจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ หากประธาน Fed คนใหม่มีท่าทีผ่อนคลาย (Dovish) และสามารถโน้มน้าวคณะกรรมการให้ลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ดอลลาร์จะถูกกดดันลงทันที เพราะในอดีตดอลลาร์ไม่เคยแข็งค่าขึ้นได้ในช่วงที่นโยบายการเงินผ่อนคลาย การลดดอกเบี้ยต่อเนื่องจะทำให้ Carry Advantage หายไป
ปัจจุบันดอลลาร์เป็นสกุลเงินหลักที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุด (3.75%-4.00%) ทำให้นักลงทุนชอบฝากเงินในสกุลดอลลาร์เพื่อรับผลตอบแทน แต่เมื่อ Fed เริ่มลดดอกเบี้ยในปี 2026 ผลตอบแทนของดอลลาร์จะเริ่มแพ้สกุลเงินหลักอื่นๆ เช่น ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD), ปอนด์อังกฤษ (GBP) และโครนนอร์เวย์ (NOK) ส่งผลให้ความน่าสนใจของดอลลาร์ลดลง
กลยุทธ์การเทรด: เมื่อ Fed เริ่มลดดอกเบี้ย ให้มองหาโอกาสในการเทรดสกุลเงินที่มีดอกเบี้ยสูงขึ้น เช่น AUD, GBP เพื่อใช้ประโยชน์จาก Carry Trade
ต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงลดลง นักลงทุนเพิ่ม Hedging มากขึ้น เมื่อ Fed ลดดอกเบี้ย แต่ธนาคารกลางของประเทศอื่นๆ เช่น ECB หรือ BoJ ยังไม่ลด ต้นทุนในการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging Costs) จะลดลง
นอกจากนี้ การที่ดอลลาร์เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับหุ้น AI ทำให้สถานะป้องกันความเสี่ยงธรรมชาติ (Natural Hedge) ลดลง
สองเหตุผลนี้จะกระตุ้นให้นักลงทุนรายใหญ่ เช่น บริษัทประกัน กองทุนบำเหน็จบำนาญ เพิ่มการป้องกันความเสี่ยง FX มากขึ้น ซึ่งจะเป็นแรงกดดันดอลลาร์ในระยะสั้น
เมื่อวิเคราะห์ประเด็นทั้งหมดพร้อมกัน เราสามารถประเมินทิศทางของดอลลาร์ได้ 3 กรณีหลัก:
กรณีฐาน: ยืดหยุ่นแบบผ่อนคลาย
เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตดีจากนโยบายการคลัง Fed ลดดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง เงินทุนยังไหลเข้าหุ้นสหรัฐฯ ต่อเนื่อง
Dollar Index: 96-104 จุด
USD/THB: 31.0-33.0 บาท
ลักษณะ: ไม่แข็งหรืออ่อนสุดโต่ง เคลื่อนไหวในกรอบ
กรณีดอลลาร์แข็งค่า: AI ต้องเหนือชั้นและทิ้งห่าง
หากสหรัฐฯ รักษาความเป็นผู้นำด้าน AI ได้อย่างชัดเจน อัตรากำไรยังคงสูง นักลงทุนทั่วโลกจะเทเงินกลับเข้า Big Tech เกิดกระแสเงินทุนรอบใหม่
Dollar Index: 100-105 จุด
USD/THB: 32.0-33.6 บาท
ลักษณะ: Exceptionalism กลับมา ดอลลาร์แข็งแกร่ง
กรณี Deep Weak: อ่อนค่าที่สุดเมื่อ AI ถูกไล่ตามทัน
หากจุดแข็งด้าน AI ของสหรัฐฯ ถูกประเทศอื่นไล่ตามทัน ความได้เปรียบทางเศรษฐกิจจะหายไป เหลือเพียงการลดดอกเบี้ยของ Fed ที่กดดันดอลลาร์
Dollar Index: 93-100 จุด
USD/THB: 30.0-32.0 บาท
ลักษณะ: ดอลลาร์อ่อนค่าชัดเจน ต้องระวังที่สุด
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะ GDP และตลาดแรงงาน
ข่าวการลงทุนด้าน AI จากบริษัทเทคฯ ชั้นนำ
การประชุม Fed และคำแถลงนโยบายการเงิน
การแข่งขันเทคโนโลยีระหว่างประเทศ
การเทรด Forex ในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วต้องอาศัยแพลตฟอร์มที่รวดเร็วและเสถียร เครื่องมือวิเคราะห์ที่ทันสมัย และข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน
ปี 2026 จะเป็นปีที่เต็มไปด้วยโอกาสในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ไม่ว่าดอลลาร์จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด การมีเครื่องมือและข้อมูลที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
EBC Financial Group พร้อมเป็นพันธมิตรในการเทรดของคุณด้วย
แพลตฟอร์มเทรดที่ทันสมัย รองรับการเทรดแบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งเครื่องมือวิเคราะห์ระดับมืออาชีพ
อีกทั้งยังมีทีมผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงข้อมูลตลาดและข่าวสารอัพเดตทุกวัน
ทิศทางของดอลลาร์ในปี 2026 ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก 2 ประการ คือ ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความสามารถในการรักษาความเป็นผู้นำด้าน AI ในกรณีฐาน Dollar Index คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 96-104 จุด (USD/THB อยู่ที่ 31.0-33.0 บาท) แต่หากสหรัฐฯ รักษาความได้เปรียบด้าน AI ได้ ดอลลาร์อาจแข็งค่าถึง 100-105 จุด ในทางกลับกัน หาก AI ถูกประเทศอื่นไล่ตามทัน ดอลลาร์อาจอ่อนลงไปที่ 93-100 จุด
โอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ยในปี 2026 มีความเป็นไปได้สูง โดยเฉพาะหากประธาน Fed คนใหม่ที่จะเข้ามาหลังเดือนพฤษภาคม 2026 มีท่าทีผ่อนคลาย (Dovish) การลดดอกเบี้ยจะส่งผลให้ดอลลาร์สูญเสีย Carry Advantage และอาจกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่ยังคงมีดอกเบี้ยสูง เช่น AUD, GBP และ NOK
AI เป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงเงินทุนเข้าสหรัฐฯ มากกว่า 7% ของ GDP ในปี 2025 หากสหรัฐฯ ยังคงเป็นผู้นำด้าน AI และบริษัทเทคฯ รักษาอัตรากำไรได้ กระแสเงินทุนจะยังไหลเข้าต่อเนื่อง หนุนให้ดอลลาร์แข็งค่า แต่หากการลงทุนด้าน AI สูงเกินไปจนกระทบกำไร หรือประเทศอื่นๆ ไล่ตามทันด้านเทคโนโลยี เงินทุนอาจถอนตัวออกจากสหรัฐฯ ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่า
ควรเทรด USD/THB ในช่วงไหนของปี 2026?
การเทรด USD/THB ควรติดตามปัจจัยสำคัญ 3 ช่วง:
(1) ช่วงต้นปี - ติดตามนโยบายการคลังสหรัฐฯ และข้อมูลเศรษฐกิจ
(2) พฤษภาคม 2026 - จุดเปลี่ยนประธาน Fed อาจสร้างความผันผวน
(3) ครึ่งปีหลัง - ทิศทางชัดเจนขึ้นจากการตัดดอกเบี้ยของ Fed และผลประกอบการของบริษัทเทคฯ โดยกรอบคาดการณ์อยู่ที่ 30.0-33.6 บาท ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
มือใหม่ควรเริ่มต้นเทรด Forex อย่างไรในปี 2026?
สำหรับมือใหม่ ควรเริ่มต้นด้วย:
ศึกษาพื้นฐานตลาด Forex และปัจจัยที่มีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยน
เลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตถูกต้อง และมีเครื่องมือวิเคราะห์ครบครัน
เปิดบัญชีทดลองเทรด (Demo Account) เพื่อฝึกฝนก่อน
เริ่มต้นด้วยเงินทุนน้อยและบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวด
ติดตามข่าวสารและวิเคราะห์ตลาดอย่างสม่ำเสมอ และ
ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
Hedging Flows คือกระแสการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนของนักลงทุนสถาบัน เมื่อ Fed ลดดอกเบี้ยแต่ธนาคารกลางอื่นไม่ลด ต้นทุนในการป้องกันความเสี่ยงจะลดลง ทำให้นักลงทุนรายใหญ่ เช่น บริษัทประกันและกองทุนบำเหน็จบำนาญ เลือกทำ Hedging เพิ่มขึ้น ซึ่งจะสร้างแรงกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าในระยะสั้น โดยเฉพาะเมื่อดอลลาร์เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับหุ้น AI ทำให้การการป้องกันความเสี่ยงลดลง
ในปี 2026 ตลาด Forex ยังคงวนเวียนอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐกิจสหรัฐฯ กับทิศทางค่าเงินดอลลาร์ นักลงทุนต้องจับตามองข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และท่าทีของ Fed อย่างใกล้ชิด
Disclaimer: บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน บทความนี้สะท้อนมุมมองของ EBC Financial Group และหน่วยงานทั่วโลกของบริษัทเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการเงินหรือการลงทุน การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และอัตราแลกเปลี่ยน (FX) มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้สูญเสียเงินลงทุนเริ่มต้นทั้งหมดหรือมากกว่า โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินก่อนตัดสินใจลงทุน EBC Financial Group และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดจากการอ้างอิงข้อมูลนี้