แนวโน้ม (Trend) ในการเทรดคืออะไร?
简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

แนวโน้ม (Trend) ในการเทรดคืออะไร?

ผู้เขียน: Charon N.

เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-08

แนวโน้มในตลาดการเทรดเป็นหนึ่งในแนวคิดที่สำคัญที่สุดในการเข้าใจทิศทางของตลาดและสร้างพื้นฐานการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง


โดยช่วยให้นักเทรดสามารถระบุได้ว่า ราคากำลังเคลื่อนไหวไปในทิศทางขึ้น ลง หรือข้างเคียง ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาตัดสินใจได้ชัดเจนขึ้นแทนที่จะตอบสนองตามอารมณ์ต่อการเคลื่อนไหวระยะสั้น


สำหรับมือใหม่ การระบุแนวโน้มจะช่วยให้มีโครงสร้างที่ชัดเจน ปรับปรุงการจับจังหวะ และเสริมความมั่นใจในการวางแผนการเทรด


คำนิยาม

แนวโน้ม (Trend) คือทิศทางโดยรวมที่ราคาของสินทรัพย์เคลื่อนไหวไปในช่วงระยะเวลาหนึ่ง


เมื่อราคาสร้างจุดสูงสุดที่สูงขึ้นและจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นอย่างสม่ำเสมอ จะถือว่าอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) เมื่อราคาสร้างจุดสูงสุดที่ต่ำลงและจุดต่ำสุดที่ต่ำลง จะถือว่าอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) หากราคาขยับในช่วงแคบโดยไม่มีทิศทางที่ชัดเจน จะถือว่าเป็นแนวโน้มข้างเคียง (Sideways Trend) หรือ ตลาดที่มีช่วงการเคลื่อนไหวแคบ


นักเทรดใช้แนวโน้มเพื่อเข้าใจทิศทางของตลาดและปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับทิศทางหลักแทนที่จะเทรดตรงข้ามกับมัน


ตัวอย่าง

ลองจินตนาการถึงหุ้นตัวหนึ่งที่ขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายสัปดาห์ เมื่อมันถอยกลับเล็กน้อย มันก็กลับขึ้นไปทำจุดสูงใหม่ นี่คือรูปแบบที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ซึ่งบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) แสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อมีอำนาจ


หากหุ้นตัวเดียวกันเริ่มสร้างจุดต่ำใหม่หลังจากการกระดอนตัวในแต่ละครั้ง นั่นบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลง (Downtrend) หมายความว่าผู้ขายมีอำนาจ


นักเทรดจะมองหารูปแบบเหล่านี้เพื่อเทรดในทิศทางเดียวกับแนวโน้มที่กำลังเป็นอยู่ แทนที่จะคาดเดาว่าตลาดจะย้อนกลับเมื่อไหร่


วิธีที่นักเทรดระบุแนวโน้ม

  • มองหารูปแบบการสร้างจุดสูงและจุดต่ำที่ซ้ำกัน

  • ใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) เพื่อเน้นทิศทาง

  • สังเกตเส้นแนวโน้ม (Trendlines) ที่เชื่อมจุดเปลี่ยนสำคัญ

  • วิเคราะห์โมเมนตัมของราคาเพื่อยืนยันความแข็งแกร่ง

  • เฝ้าระวังการทะลุแนวต้านหรือแนวรับ เพื่อสังเกตการเกิดแนวโน้มใหม่


การติดตามแนวโน้มจะช่วยให้นักเทรดมีแผนที่ชัดเจนในการเข้าและออกจากตลาด รวมถึงการจัดการความเสี่ยงโดยเน้นวินัยมากกว่าการตอบสนองตามอารมณ์


ประเภทหลักของแนวโน้ม

ประเภทหลักของแนวโน้ม

1. แนวโน้มขาขึ้น (Bullish)

ราคาสร้างจุดสูงสุดที่สูงขึ้นและจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น ผู้ซื้อมักจะมีอำนาจ


2. แนวโน้มขาลง (Bearish)

ราคาสร้างจุดสูงสุดที่ต่ำลงและจุดต่ำสุดที่ต่ำลง ผู้ขายมักจะมีอำนาจ


3. แนวโน้มข้างเคียง (Sideways Trend)

ราคาขยับในช่วงแนวนอนโดยไม่มีการควบคุมจากผู้ซื้อหรือผู้ขายที่ชัดเจน


กลยุทธ์การเทรดตามแนวโน้ม

กลยุทธ์การเทรดตามแนวโน้มมุ่งเน้นการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อหาช่องทางในการทำกำไรในตลาดที่มีแนวโน้มทั้งขาขึ้นและขาลง กลยุทธ์เหล่านี้ช่วยให้นักเทรดเข้าใจว่าโมเมนตัมของตลาดกำลังเพิ่มขึ้นหรือลดลง เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล


ก่อนที่จะใช้วิธีการใด ๆ ที่อิงกับแนวโน้ม นักเทรดจำเป็นต้องเข้าใจวิธีการทำงานของแต่ละตัวชี้วัดเพื่อหลีกเลี่ยงการตีความสัญญาณผิด


1. ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

วิธีนี้ใช้ตัวชี้วัดที่ทำให้ข้อมูลราคาสมูธขึ้นในช่วงเวลาที่เลือก โดยสร้างเส้นที่ไหลลื่นบนกราฟ เส้นนี้ช่วยให้นักเทรดเห็นว่า ตลาดกำลังเคลื่อนไหวในทิศทางขึ้นหรือลง


2. ดัชนี RSI

ดัชนี RSI

RSI เป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้นักเทรดระบุว่า สินทรัพย์อาจถูกซื้อเกินไปหรือขายเกินไป การอ่านค่าซื้อเกินบ่งชี้ว่าสินทรัพย์อาจมีราคาเกินมูลค่าที่แท้จริง ขณะที่การอ่านค่าสินทรัพย์ขายเกินบ่งชี้ว่าเป็นสิ่งตรงกันข้าม


3. ดัชนี ADX

ADX ช่วยให้นักเทรดวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม แทนที่จะวัดทิศทางของมัน มันใช้มาตรวัดจาก 0 ถึง 100 โดยค่าที่สูงขึ้นสะท้อนถึงโมเมนตัมที่แข็งแกร่ง


4. การถอยกลับในเทรดตามแนวโน้ม

การถอยกลับเกิดขึ้นเมื่อราคาขยับกลับไปในทิศทางตรงข้ามกับแนวโน้มหลักชั่วคราว ก่อนที่จะกลับไปในทิศทางเดิม นักเทรดตามแนวโน้มมักมองหาการถอยกลับเล็กน้อยเหล่านี้เป็นโอกาสในการเข้าเทรดในระดับที่ดีกว่า


5. การเทรดสวนทางกับแนวโน้ม (Counter-Trend Trading)

การเทรดสวนทางกับแนวโน้มมุ่งเน้นที่จะใช้ประโยชน์จากการกลับตัวของแนวโน้ม โดยการวิเคราะห์ตัวชี้วัด เช่น RSI, ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ หรือ ADX นักเทรดพยายามระบุเมื่อโมเมนตัมอาจเปลี่ยนทิศทางไปในทิศทางตรงข้าม


หากนักเทรดเข้าไปในจุดเริ่มต้นได้เร็วพอ พวกเขาอาจได้ประโยชน์จากการเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้มีความเสี่ยงสูงกว่าเพราะการทำนายการกลับตัวของแนวโน้มได้อย่างแน่นอนเป็นไปไม่ได้ เช่นเดียวกับกลยุทธ์อื่น ๆ การประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนเป็นสิ่งสำคัญ


ความผิดพลาดทั่วไปที่มือใหม่มักทำ

  • บังคับให้มีแนวโน้มที่ไม่มีอยู่: ตลาดมักจะเคลื่อนไหวในลักษณะข้างเคียง; ไม่ทุกราคาเคลื่อนไหวคือแนวโน้ม

  • เทรดขัดกับแนวโน้มหลัก: มือใหม่มักพยายามจับจังหวะกลับตัวเร็วเกินไป

  • ใช้แค่กรอบเวลาเดียว: ตลาดอาจดูเหมือนมีแนวโน้มในกรอบเวลาสั้น แต่จริง ๆ แล้วอาจเคลื่อนไหวในช่วงข้างเคียงในกรอบเวลาที่ยาวกว่า

  • มองข้ามการถอยกลับและการแก้ไข: แนวโน้มมักมีการแกว่งตัว การถอยกลับแค่ครั้งเดียวไม่ได้หมายความว่าแนวโน้มจะจบลง

  • พึ่งพาแค่ตัวชี้วัดโดยไม่สังเกตโครงสร้างราคา: ตัวชี้วัดช่วยได้ แต่การเคลื่อนไหวของราคา (Price Action) คือการยืนยันแนวโน้ม


แนวโน้ม vs การกลับตัวของแนวโน้ม

คุณสมบัติ แนวโน้ม การกลับตัวของแนวโน้ม
ความหมาย การเคลื่อนไหวที่สม่ำเสมอในทิศทางหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงจากการเคลื่อนไหวขึ้นเป็นลง หรือจากลงเป็นขึ้น
สิ่งที่นักเทรดจับตามอง จุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น หรือจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่ต่ำลง การทำลายระดับสำคัญหรือเส้นแนวโน้ม
วัตถุประสงค์ ช่วยให้นักเทรดตามทิศทางหลัก ช่วยระบุจุดเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้น
พฤติกรรมทางการตลาด มั่นคงและมีทิศทาง มักผันผวนและไม่แน่นอน
การใช้ของนักเทรด การปรับการเทรดให้สอดคล้องกับทิศทาง การปรับตำแหน่งหรือเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสใหม่


คำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง

  • เส้นแนวโน้ม (Trendline) : เส้นที่วาดผ่านจุดสูงสุดหรือต่ำสุดเพื่อแสดงทิศทางของแนวโน้ม

  • โมเมนตัม : ความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหวของแนวโน้ม

  • การถอยกลับ (Pullback) : การหยุดชั่วคราวหรือการเคลื่อนไหวขัดกับแนวโน้มในระหว่างการเคลื่อนไหวที่ใหญ่กว่า


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. แนวโน้มบอกอะไรนักเทรด?

แนวโน้มแสดงทิศทางโดยรวมของตลาดเพื่อให้นักเทรดสามารถปรับการเทรดให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของตลาด


2. แนวโน้มมีอายุยืนยาวหรือไม่?

ไม่ ทุกแนวโน้มจะอ่อนแอลง หยุดชั่วคราว หรือกลับตัวในที่สุด ซึ่งเป็นเหตุผลที่นักเทรดต้องติดตามโมเมนตัมและโครงสร้างราคา


3. การเทรดตามแนวโน้มดีกว่าหรือการเทรดขัดกับแนวโน้ม?

มือใหม่มักจะทำได้ดีกว่าการเทรดตามแนวโน้ม เพราะมันสอดคล้องกับทิศทางที่แข็งแกร่งของตลาด


สรุป

แนวโน้มคือทิศทางโดยรวมของการเคลื่อนไหวของราคาและเป็นรากฐานของการวิเคราะห์ทางเทคนิคส่วนใหญ่ แนวโน้มขาขึ้นแสดงถึงความแข็งแกร่งของผู้ซื้อ แนวโน้มขาลงแสดงถึงความแข็งแกร่งของผู้ขาย และตลาดข้างเคียงสะท้อนถึงความไม่แน่ใจ


การเรียนรู้ที่จะระบุรูปแบบของจุดสูงและจุดต่ำและการใช้เครื่องมืออย่างเส้นแนวโน้มหรือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ช่วยให้นักเทรดเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับพฤติกรรมของตลาด


การเข้าใจแนวโน้มช่วยให้มือใหม่ตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าเมื่อไหร่ควรเข้าออกหรือหลีกเลี่ยงการเทรด ซึ่งจะสนับสนุนการตัดสินใจที่มีระเบียบและมั่นใจมากขึ้น


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ