เจาะลึก Call Option คืออะไร พร้อม 3 เทคนิคใช้ทำกำไรในตลาดการลงทุน

2025-09-10

ในโลกของการลงทุนอนุพันธ์ Call Option คือ หนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนมีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงด้วยการใช้เงินลงทุนที่น้อยกว่าการซื้อสินทรัพย์จริง แถมยังไม่เพียงเป็นแค่เป็นเครื่องมือสำหรับการเก็งกำไร แต่ยังใช้ป้องกันความเสี่ยง (hedging) ได้ด้วย บทความนี้จึงจะพาคุณไปรู้จัก call option อย่างละเอียด ตั้งแต่พื้นฐาน ความแตกต่างจากการลงทุนปกติ และเทคนิคการใช้ทำกำไร


Call Option คืออะไร? เข้าใจให้ชัดในมุมการเงิน


Call option คือสัญญาซื้อขายสิทธิในตลาดอนุพันธ์ที่ให้นักลงทุนมีสิทธิ (แต่ไม่ใช่ภาระผูกพัน) ในการซื้อสินทรัพย์อ้างอิงในอนาคตตามราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (strike price) ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยผู้ซื้อสัญญาจะต้องชำระค่า Premium ให้แก่ผู้ขายเพื่อแลกกับสิทธินั้น ลักษณะนี้ทำให้ call option เป็นเครื่องมือที่ผสมระหว่างการเก็งกำไรกับการบริหารความเสี่ยง นักลงทุนจึงมองว่ามันเป็น “ทางเลือก” ที่ยืดหยุ่นกว่าการลงทุนแบบดั้งเดิม เช่น การซื้อหุ้นตรง ๆ


ในเชิงโครงสร้าง call option ถูกออกแบบมาเพื่อสร้าง leverage หรืออัตราทดทางการเงิน กล่าวคือผู้ลงทุนสามารถควบคุมมูลค่าสินทรัพย์ที่ใหญ่กว่าจำนวนเงินลงทุนจริงหลายเท่า การจ่ายเพียงค่า premium ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของราคาสินทรัพย์ ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ถือสัญญามีสิทธิซื้อสินทรัพย์ได้เต็มจำนวน กลไกนี้เองที่ทำให้ call option เป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์ที่ต้องการผลตอบแทนสูง แต่ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงของการสูญเสีย premium หากทิศทางตลาดไม่เป็นไปตามที่คาด


ในมุมเศรษฐศาสตร์การเงิน Call option จัดเป็นหนึ่งในเครื่องมืออนุพันธ์ (derivatives) ที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่องและประสิทธิภาพของตลาด โดยเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถบริหารความเสี่ยงได้ดีกว่าการถือสินทรัพย์เพียงอย่างเดียว นักลงทุนสถาบันมักใช้ call option เพื่อวางกลยุทธ์ระยะยาว เช่น การล็อกราคาซื้อหุ้นในอนาคต การป้องกันความผันผวน หรือการสร้างรายได้เสริมจาก premium ส่วนในตลาดเก็งกำไรระยะสั้น call option กลับถูกใช้เป็นอาวุธที่ทรงพลังในการคาดการณ์ทิศทางราคาและเร่งผลตอบแทนให้สูงขึ้น


จุดเด่นของ Call Option


  • ใช้เงินลงทุนน้อย แต่ควบคุมสินทรัพย์มูลค่าสูงได้
    ผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องจ่ายเต็มราคาสินทรัพย์ แต่ใช้เพียงค่า premium เพื่อถือสิทธิ์ซื้อ ซึ่งถือเป็นการเพิ่ม leverage อย่างมีประสิทธิภาพ


  • ความเสี่ยงจำกัดที่ค่า Premium
    แม้ตลาดเคลื่อนไหวไม่เป็นใจ ความเสียหายสูงสุดคือค่า premium ที่จ่ายไปเท่านั้น ต่างจากการถือหุ้นจริงที่มีความเสี่ยงขาดทุนมหาศาลหากราคาดิ่งลง


  • โอกาสสร้างผลตอบแทนไม่จำกัด
    หากราคาสินทรัพย์อ้างอิงพุ่งขึ้นเกิน strike price อย่างมีนัยสำคัญ กำไรของผู้ถือ call option สามารถขยายได้โดยแทบไม่มีเพดานจำกัด


  • ยืดหยุ่นต่อการประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์
    Call option สามารถนำไปผสมผสานกับอนุพันธ์หรือหุ้นจริงเพื่อสร้างกลยุทธ์ที่หลากหลาย ทั้งเพื่อทำกำไรเชิงรุกหรือป้องกันความเสี่ยงเชิงรับ


Call Option - EBC


Call Option ต่างกับการลงทุนสินทรัพย์ปกติยังไง?


การซื้อขายสินทรัพย์ปกติ เช่น หุ้นหรือทองคำ นักลงทุนต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนเพื่อครอบครองสินทรัพย์ และผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงราคาตลาดแบบตรงไปตรงมา แต่ call option ไม่ได้ทำให้นักลงทุนเป็นเจ้าของสินทรัพย์ทันที หากแต่เป็น “ผู้ถือสิทธิ” ที่จะซื้อในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (strike price) ภายในระยะเวลาที่สัญญากำหนด


ในมุมการใช้เงินลงทุน การซื้อหุ้นจริงอาจต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อถือครองหุ้นหนึ่งชุด แต่ call option ใช้เพียงค่า premium ซึ่งมีมูลค่าน้อยกว่ามาก แต่กลับเปิดโอกาสควบคุมสิทธิซื้อหุ้นหรือสินทรัพย์ในมูลค่าเท่ากันได้ ผลที่ได้คือเกิด leverage หรืออัตราทดการลงทุน ซึ่งสามารถทำให้ผลตอบแทนสูงขึ้นมากเมื่อราคาขยับในทิศทางที่ถูกต้อง


เมื่อพิจารณาความเสี่ยง การซื้อหุ้นจริงอาจทำให้นักลงทุนขาดทุนเต็มจำนวนหากราคาตกลงต่ำกว่าราคาซื้อ ขณะที่ call option ความเสี่ยงจำกัดอยู่แค่ค่า premium ที่จ่าย หากราคาสินทรัพย์ไม่เคลื่อนไหวตามที่คาด นักลงทุนไม่จำเป็นต้องใช้สิทธิและยอมเสีย premium เพียงเท่านั้น ถือเป็นการจำกัด downside risk ที่ชัดเจน


ในเชิงกลยุทธ์ นักลงทุนที่ซื้อหุ้นจริงมักเน้นการถือระยะยาวเพื่อรอการเติบโตของราคา แต่ call option ยืดหยุ่นกว่า สามารถใช้เก็งกำไรระยะสั้น ใช้ล็อกราคาซื้อหุ้นในอนาคต หรือใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ซับซ้อน เช่น covered call หรือ bull call spread เพื่อเพิ่มรายได้และจำกัดความเสี่ยง การลงทุนด้วย call option จึงไม่ใช่การแทนที่การซื้อสินทรัพย์จริง แต่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้ความคล่องตัวและการจัดการความเสี่ยงที่หลากหลายกว่า


ตารางเปรียบเทียบ Call Option vs การซื้อสินทรัพย์จริง

ประเด็นเปรียบเทียบ

Call Option

การซื้อสินทรัพย์จริง

สถานะการถือครอง

ได้สิทธิ์ในการซื้อ แต่ยังไม่เป็นเจ้าของสินทรัพย์ทันที

เป็นเจ้าของสินทรัพย์จริงตั้งแต่ชำระเงินเต็มจำนวน

เงินลงทุนเริ่มต้น

ใช้เงินเพียงค่า Premium ซึ่งมักน้อยกว่ามาก

ต้องจ่ายเงินเต็มราคาตลาดของสินทรัพย์

ความเสี่ยง

จำกัดสูงสุดที่ค่า Premium

อาจขาดทุนเต็มจำนวนหากราคาสินทรัพย์ร่วงลง

ผลตอบแทน

ไม่จำกัดหากราคาสินทรัพย์ปรับขึ้นสูงกว่าราคา Strike

ขึ้นกับการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์โดยตรง

กลยุทธ์การใช้งาน

ยืดหยุ่น ใช้เก็งกำไร ป้องกันความเสี่ยง หรือสร้างรายได้เสริม

มักใช้ถือครองเพื่อเก็งกำไรหรือรับปันผล (กรณีหุ้น)

ระยะเวลา

มีวันหมดอายุ (Expiration Date) ต้องตัดสินใจใช้สิทธิก่อนครบกำหนด

ถือครองได้ไม่จำกัดเวลา ขึ้นกับความต้องการของผู้ลงทุน


Call Option - EBC



เทคนิคการใช้ Call Option ทำกำไรอย่างมีระบบ


การใช้ Call Option ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเก็งกำไรจากราคาขึ้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยจัดการความเสี่ยงและสร้างรายได้เสริมได้ หากเข้าใจปัจจัยสำคัญอย่าง Premium, Strike Price, Time Decay และ Volatility นักลงทุนสามารถออกแบบกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดต่าง ๆ ได้อย่างมีระบบ


1. เก็งกำไรจากราคาขาขึ้นโดยตรง


หนึ่งในวิธีการพื้นฐานที่สุดคือการซื้อ Call Option เพื่อเก็งกำไรจากการปรับตัวขึ้นของราคาสินทรัพย์ นักลงทุนจะเลือก Strike Price ที่อยู่ใกล้เคียงราคาตลาดปัจจุบัน (At-the-Money หรือ Near-the-Money) เพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไร เมื่อราคาตลาดขึ้นสูงกว่าระดับดังกล่าว ผลตอบแทนที่เกิดขึ้นอาจสูงกว่าการซื้อหุ้นจริงหลายเท่าเมื่อเทียบกับเงินลงทุนที่ใช้


แต่การเก็งกำไรแบบนี้ก็มีข้อจำกัดสำคัญ นั่นคือหากราคาสินทรัพย์ไม่ขยับขึ้นตามที่คาด หรือเคลื่อนไหวช้ากว่าที่ต้องการ นักลงทุนอาจสูญเสีย Premium ทั้งหมดเนื่องจากค่าเวลา (Time Decay) ทำให้กลยุทธ์นี้ต้องอาศัยการจับจังหวะที่แม่นยำ และเหมาะกับตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจนมากกว่าตลาด Sideway ที่นิ่งเกินไป


2. การทำ Covered Call เพิ่มรายได้สม่ำเสมอ


Covered Call คือกลยุทธ์ที่นักลงทุนถือหุ้นจริงในพอร์ตอยู่แล้ว และเลือกขาย Call Option บนหุ้นตัวเดียวกันเพื่อเก็บค่า Premium เป็นรายได้เสริม เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะขายหุ้นหากราคาพุ่งขึ้นเกิน Strike Price เพราะสิทธิในการซื้อหุ้นนั้นจะถูกส่งต่อให้ผู้ซื้อ Option


ข้อดีของ Covered Call คือการช่วยลดต้นทุนการถือหุ้นลง เช่น หากนักลงทุนถือหุ้นที่ราคามีแนวโน้มเคลื่อนไหวไม่มาก การขาย Call Option ซ้ำ ๆ จะช่วยชดเชยความผันผวนและสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้ก็มีข้อจำกัด เพราะนักลงทุนอาจเสียโอกาสกำไรหากหุ้นปรับตัวขึ้นแรงเกินกว่าที่ Strike Price กำหนดไว้


3. ใช้ Bull Call Spread จำกัดความเสี่ยง


Bull Call Spread เป็นกลยุทธ์ที่ผสมระหว่างการซื้อและขาย Call Option โดยนักลงทุนจะซื้อ Call Option ที่มี Strike Price ต่ำ และขาย Call Option ที่มี Strike Price สูงในเวลาเดียวกัน กลยุทธ์นี้ช่วยลดค่า Premium ที่ต้องจ่ายในการเปิดสถานะ เพราะรายได้จากการขาย Option ที่ Strike สูงจะมาชดเชยค่าใช้จ่ายบางส่วนจากการซื้อ Option ที่ Strike ต่ำ


ผลลัพธ์คือความเสี่ยงและผลตอบแทนจะถูกจำกัดให้อยู่ในกรอบ นักลงทุนไม่ต้องกังวลว่าการเคลื่อนไหวของราคาจะเกินความคาดหมายมากเกินไป กลยุทธ์นี้เหมาะกับตลาดที่คาดว่าจะเป็นขาขึ้น แต่ไม่ใช่การพุ่งแรงจนทะลุกรอบ ข้อจำกัดคือกำไรสูงสุดที่นักลงทุนได้รับจะถูกจำกัดตามส่วนต่างของ Strike Price ที่เลือกไว้



เทคนิคการใช้ Call Option - EBC


คำถามที่พบบ่อย (FAQs)


Q: Call option คืออะไรแบบสั้น ๆ?

A: Call option คือสัญญาที่ให้สิทธิในการซื้อสินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนดล่วงหน้า ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องใช้สิทธิถ้าไม่ต้องการ


Q: การซื้อ Call option ขาดทุนได้มากสุดแค่ไหน?

A: ขาดทุนได้สูงสุดเท่ากับค่า premium ที่จ่ายไปตั้งแต่แรก ไม่มากกว่านี้


Q: นักลงทุนมือใหม่ควรเริ่มต้นกับ Call option ไหม?

A: สามารถเริ่มได้ แต่ควรศึกษากลยุทธ์และเข้าใจความเสี่ยงให้ชัดเจน เพราะแม้ความเสี่ยงจำกัด แต่โอกาสสูญเสีย premium ทั้งหมดก็มีสูงหากคาดการณ์ทิศทางผิด


สรุป


Call option คือหนึ่งในอนุพันธ์ที่มีความสำคัญต่อโครงสร้างของตลาดการเงินสมัยใหม่ เพราะช่วยเพิ่มทางเลือกให้แก่นักลงทุน ทั้งในแง่การสร้างผลตอบแทนและการป้องกันความเสี่ยง การเข้าใจกลไกของสัญญานี้จึงเป็นเรื่องจำเป็น ไม่ต่างอะไรจากการรู้จักเครื่องมือพื้นฐานในพอร์ตลงทุน


สิ่งที่ทำให้ call option แตกต่างคือความยืดหยุ่นในการใช้งาน นักลงทุนสามารถนำไปปรับใช้ได้ทั้งการเก็งกำไร การสร้างรายได้เสริม และการจำกัดความเสี่ยง ซึ่งแต่ละกลยุทธ์มีเงื่อนไขและข้อจำกัดที่ต่างกันออกไป การเลือกใช้ต้องพิจารณาทั้งสถานการณ์ตลาดและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้


ในภาพรวม call option ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือการเงินที่ซับซ้อน แต่มันคือ “ตัวเร่ง” ที่ช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงโอกาสและกลยุทธ์ที่ลึกซึ้งมากขึ้น ความเข้าใจในมิติของ call option จึงเท่ากับการเปิดประตูสู่การลงทุนที่มีความยืดหยุ่นและทรงพลังยิ่งขึ้น


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
ตัวเลือก Stop Loss: ข้อดี ข้อเสีย และข้อผิดพลาดที่ต้องรู้
ออปชั่นซื้อและวิธีทำกำไรจากการซื้อและขาย
Chicago Option Exchange (CBOE) คือ
กลยุทธ์การซื้อขายตัวเลือกที่ดีที่สุดที่เทรดเดอร์ทุกคนควรรู้
Leverage คืออะไร? รู้จักข้อดีข้อเสียก่อนเริ่มเทรด