ทองคำ XAU/USD ร่วงต่อเนื่อง ตลาดจับตา Powell ที่ประชุม Jackson Hole

ราคาทองคำ XAU/USD กำลังเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง หลังนักลงทุนลดการคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะปรับลดดอกเบี้ยในอัตราที่รุนแรงในเดือนกันยายน เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในสหรัฐยังคงตึงตัว ขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องแตะระดับสูงสุดรอบกว่า 2 สัปดาห์ ทำให้ราคาทองคำสูญเสียแรงสนับสนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

สิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตามองในขณะนี้คือ ถ้อยแถลงของ Jerome Powell ประธาน Fed ในการประชุมประจำปีที่ Jackson Hole Symposium ซึ่งจะเป็นจุดชี้ชะตาสำคัญต่อแนวโน้มดอกเบี้ย ค่าเงินดอลลาร์ และราคาทองคำในช่วงถัดไป

ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำอ่อนค่าลงต่อเนื่องจากระดับเหนือ 3,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเคลื่อนไหวใกล้โซนแนวรับสำคัญบริเวณ 3,325 – 3,315 ดอลลาร์ ซึ่งตรงกับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน (100-day SMA)

นักวิเคราะห์ตลาดทองคำมองว่า หากราคาทองคำหลุดต่ำกว่าโซน 3,311 ดอลลาร์ อาจเปิดทางให้ร่วงต่อสู่ระดับ 3,300 ดอลลาร์ หรือแม้กระทั่งแนวรับสำคัญที่ 3,270 – 3,265 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นกรอบล่างของการเคลื่อนไหวในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม หากทองคำสามารถฟื้นตัวเหนือระดับ 3,350 ดอลลาร์ ได้อีกครั้ง อาจเกิดแรงซื้อกลับ (short-covering) ที่ดันราคาขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 3,375 ดอลลาร์ และหากทะลุได้อาจขึ้นต่อไปที่ 3,400 – 3,435 ดอลลาร์

ปัจจัยกดดันราคาทองคำ: ค่าเงินดอลลาร์แข็งและความไม่แน่นอนของ Fed

1. ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า

ดอลลาร์สหรัฐ (USD) แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากแรงหนุนของข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (Jobless Claims) ที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี แต่ตลาดยังมองว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อไม่ได้ลดลงมากนัก ทำให้ Fed ยังคงต้องดำเนินนโยบายการเงินที่ “เข้มงวดแบบระมัดระวัง”

2. ความไม่แน่นอนของนโยบายดอกเบี้ย

หลังจากตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ นักลงทุนจึงลดการคาดหวังว่า Fed จะลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่แบบ “jumbo rate cut” ในเดือนกันยายน

เจ้าหน้าที่ Fed หลายคนออกมาแสดงความเห็นที่แตกต่างกัน

• Jeffrey Schmid (Kansas City Fed) มองว่านโยบายปัจจุบันยัง “ตึงตัวอย่างพอประมาณ” และควรรักษาระดับดอกเบี้ยไว้ 

• Beth Hammack (Cleveland Fed) ย้ำว่าความเสี่ยงใหญ่ที่สุดคือ “เงินเฟ้อยังสูงเกินไป”

• Austan Goolsbee (Chicago Fed) แสดงท่าทีระมัดระวัง แต่ย้ำว่าการประชุมเดือนกันยายนยังเป็น “live meeting”

• Susan Collins (Boston Fed) เปิดโอกาสว่าอาจลดดอกเบี้ยได้เร็วที่สุดเดือนหน้า หากเศรษฐกิจเริ่มชะลอและตลาดแรงงานอ่อนแอ

CME FedWatch Tool: ตลาดยังคงให้น้ำหนักการลดดอกเบี้ย

ข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ชี้ว่า ตลาดการเงินยังให้น้ำหนักกว่า 75% ที่ Fed จะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนกันยายน และอาจมีการลดดอกเบี้ยรวมอย่างน้อย 2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ ถึงแม้ความคาดหวังยังมีอยู่ แต่ท่าทีที่ระมัดระวังของเจ้าหน้าที่ Fed ทำให้ทองคำไม่ได้รับแรงหนุนมากนักในช่วงสั้น และยังคงเผชิญแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า

Jackson Hole Symposium: จุดเปลี่ยนสำคัญของราคาทองคำ

การประชุม Jackson Hole Symposium ถือเป็นเวทีสำคัญที่ธนาคารกลางทั่วโลกจับตามอง คำพูดเพียงไม่กี่ประโยคของ Powell สามารถเปลี่ยนทิศทางตลาดการเงินได้ในทันที หาก Powell ส่งสัญญาณว่า Fed จะ “คงดอกเบี้ยสูงเป็นเวลานาน” (higher for longer) ดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่าต่อและกดดันทองคำให้หลุดแนวรับสำคัญ แต่หาก Powell แสดงท่าที “ผ่อนคลายมากขึ้น” (dovish) ตลาดอาจกลับมาคาดหวังการลดดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คิด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในทันที

มุมมองเชิงเทคนิค: แนวรับ – แนวต้านสำคัญ

• แนวรับแรก: $3,325 – $3,315 (100-day SMA)

• แนวรับถัดไป: $3,311 และ $3,270 – $3,265

• แนวต้านแรก: $3,350

• แนวต้านถัดไป: $3,375 – $3,400 และ $3,434 – $3,435

หากราคาทองคำยืนเหนือโซน 3,350 ดอลลาร์ได้ จะเพิ่มโอกาสในการกลับตัวขึ้นระยะสั้น แต่หากหลุด 3,311 ดอลลาร์ลงมา มีโอกาสเข้าสู่แนวโน้มขาลงที่ชัดเจนกว่าเดิม

ปัจจัยเสี่ยงที่นักลงทุนต้องติดตาม

สำหรับนักลงทุนในตลาดทองคำ ยังมีหลายปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐ เช่น CPI และ PPI ซึ่งหากออกมาสูงกว่าที่คาด จะกดดันราคาทองคำต่อเนื่อง เนื่องจากสะท้อนว่าแรงกดดันด้านราคาในเศรษฐกิจยังไม่ลดลงเพียงพอ 

ขณะเดียวกัน ท่าทีด้านนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ก็มีบทบาทสำคัญ โดยถ้อยแถลงจากประธาน Jerome Powell และเจ้าหน้าที่ระดับสูงแต่ละคน อาจสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับตลาดได้ทันที 

นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจโลกและปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความไม่แน่นอนทางการค้า หรือความตึงเครียดในภูมิภาคต่าง ๆ ยังสามารถหนุนความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย 

ขณะที่การแข็งค่าของดอลลาร์และการปรับขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US Treasury Yield) ยังคงเป็นตัวแปรที่ลดความน่าสนใจของทองคำในสายตานักลงทุน เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีดอกผลและมักเสียเปรียบเมื่ออัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ปรับตัวสูงขึ้น

สรุป

ราคาทองคำ (XAU/USD) กำลังเผชิญแรงกดดันต่อเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าและการคาดการณ์นโยบายดอกเบี้ยของ Fed ที่ยังไม่แน่นอน แม้ตลาดยังให้น้ำหนักสูงว่า Fed จะลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน แต่ถ้อยแถลงของ Powell ที่ Jackson Hole จะเป็นตัวชี้ขาดทิศทางของตลาดในระยะสั้น

ทองคำยังมีโอกาสปรับตัวขึ้น หาก Fed ส่งสัญญาณผ่อนคลายมากกว่าที่คาด แต่หาก Powell ย้ำแนวทางคงดอกเบี้ยสูงยาวนาน ราคาทองคำอาจเผชิญแรงขายต่อเนื่องจนหลุดแนวรับสำคัญ

นักลงทุนจึงควรติดตามปัจจัยพื้นฐานและสัญญาณทางเทคนิคอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะโซนแนวรับ 3,315 – 3,300 ดอลลาร์ และแนวต้าน 3,375 – 3,400 ดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางสำคัญของราคาทองคำในรอบถัดไป

คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใด ๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใด ๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ