简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

เลือกกลยุทธ์การเทรดที่ใช่ ตอบโจทย์เป้าหมายคุณ

2025-06-27

ความสำเร็จในการเทรดไม่ได้เกิดจากการไล่ตามทุกสัญญาณหรือการเชี่ยวชาญกลยุทธ์การเทรดที่ซับซ้อนที่สุด แต่มาจากการค้นหาวิธีที่เหมาะกับตัวคุณเอง สำหรับมือใหม่และนักเทรดทั่วไป เป้าหมายไม่ใช่การเอาชนะตลาดในชั่วข้ามคืน แต่คือการสร้างความมั่นใจ ปกป้องเงินทุน และพัฒนาจังหวะการเทรดที่ยั่งยืนและให้ผลตอบแทนที่ดีกลยุทธ์ที่เหมาะสมในช่วงเริ่มต้นอาจไม่ใช่กลยุทธ์ที่ซับซ้อนที่สุด แต่คือกลยุทธ์ที่คุณสามารถปฏิบัติตามได้อย่างชัดเจนและมีวินัย แม้ในช่วงที่ตลาดไม่เป็นใจ


ทำความเข้าใจสไตล์การเทรดของตัวเอง

กลยุทธ์การเทรด

ก่อนจะเลือกใช้กลยุทธ์ใด ๆ สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาตัวคุณเองว่าคุณเป็นนักเทรดแบบไหน หรืออยากเป็นแบบไหน เวลาในแต่ละวัน อารมณ์ และความตั้งใจในการเรียนรู้ของคุณ จะเป็นตัวกำหนดว่าวิธีใดเหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ


หากคุณทำงานเต็มเวลา หรือมีเวลาให้การเทรดเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์ การเทรดรายวัน (Day Trading) อาจไม่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ ในกรณีนี้การเทรดแบบ Swing Trading หรือ Position Trading ซึ่งถือครองตำแหน่งหลายวันหรือเป็นสัปดาห์ อาจเหมาะสมกว่า ในทางกลับกัน หากคุณว่างในช่วงเวลาตลาดเปิดและชอบตัดสินใจอย่างรวดเร็ว การเทรดแบบ Active ก็อาจเป็นทางเลือกในอนาคต


แม้มือใหม่มักถูกดึงดูดด้วยกำไรที่รวดเร็ว แต่ในความเป็นจริง การเทรดในช่วงแรกคือการอยู่รอดและเรียนรู้ กลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือกลยุทธ์ที่เข้ากับชีวิตประจำวันของคุณได้อย่างกลมกลืน โดยไม่เพิ่มความเครียดหรือภาระทางอารมณ์


การใช้เทคนิคการติดตามแนวโน้มแบบง่าย ๆ 

กลยุทธ์การติดตามแนวโน้ม การติดตามแนวโน้ม (Trend-Following) เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ง่ายที่สุดสำหรับมือใหม่หลักการคือ “ซื้อเมื่อราคากำลังขึ้นและขายเมื่อเริ่มลง” ไม่ใช่การพยายามจับจุดกลับตัวหรือทำนายจุดสูงสุดต่ำสุด แต่เป็นการเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับตลาด


วิธีการพื้นฐาน เช่น:

  • ใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน เพื่อตรวจสอบแนวโน้มหลัก

  • เข้าซื้อเมื่อราคาสูงกว่าค่าเฉลี่ย

  • ออกจากตลาดเมื่อราคาต่ำกว่าค่าเฉลี่ย


คุณสามารถเสริมความแม่นยำด้วยการใช้อินดิเคเตอร์ เช่น ดัชนี RSI หรือ MACD เพื่อยืนยันโมเมนตัม แต่จงหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องมือมากเกินไป เพราะเครื่องมือไม่กี่ตัวที่ใช้สม่ำเสมอจะมีประสิทธิภาพมากกว่าหลายตัวที่ขัดแย้งกัน


กลยุทธ์ตามแนวโน้มใช้ได้ดีในตลาดขาขึ้น และเหมาะกับสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง เช่น ETF (เช่น SPY), หุ้นขนาดใหญ่ หรือคู่สกุลเงินหลัก


กลยุทธ์ Swing Trading ด้วย ETF และดัชนี


นักเทรดมือใหม่มักมองข้ามพลังของ ETF ดัชนี ซึ่งเป็นกองทุนที่ติดตามดัชนีตลาดกว้าง เช่น S&P 500, Nasdaq 100 หรือ FTSE 100 โดยตัวอย่างที่นิยมคือ SPDR S&P 500 ETF (SPY)


การเทรดแบบ Swing ด้วย ETF เหมาะกับผู้ที่เทรดพาร์ทไทม์ เพราะ:

  • มีความผันผวนน้อยกว่าหุ้นรายตัว

  • กระจายความเสี่ยงในตัวเอง

  • ไม่จำเป็นต้องติดตามข่าวหรือผลประกอบการรายบริษัทมากนัก


กลยุทธ์พื้นฐาน เช่น รอให้ราคาย่อลงมาใกล้แนวรับหรือเส้นแนวโน้ม จากนั้นเข้าเมื่อมีสัญญาณว่าราคากำลังกลับตัวขึ้นอีกครั้ง เช่น แท่งเทียนขาขึ้น หรือ RSI กลับขึ้นเหนือระดับ 50


การโฟกัสเทรดแค่ ETF ไม่กี่ตัวจะช่วยให้คุณเรียนรู้เร็วขึ้น มีสมาธิ และไม่ถูกรบกวนจากหุ้นจำนวนมาก


การบริหารความเสี่ยงสำหรับพอร์ตเล็ก


แม้กลยุทธ์จะดีแค่ไหน แต่หากไม่มีการบริหารความเสี่ยงที่ดี ก็ยากจะประสบความสำเร็จมือใหม่มักเข้าใจผิดว่าความสำเร็จอยู่ที่การหาจุดเข้าที่สมบูรณ์แบบ ทั้งที่จริงแล้วอยู่ที่การจำกัดการขาดทุนและรักษาทุน


กฎง่าย ๆ ได้แก่:

  • อย่าเสี่ยงเกิน 1–2% ของพอร์ตในแต่ละดีล

  • ต้องมีจุดตัดขาดทุนเสมอ แม้จะใช้แบบ “จำไว้ในใจ” ในช่วงแรก

  • อย่าไล่ซื้อหรือถัวเฉลี่ยขาดทุน


ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมีพอร์ต 1,000£ การเสี่ยง 2% คือไม่ควรขาดทุนเกิน 20£ ต่อดีล แม้จะดูน้อย แต่จะช่วยให้คุณอยู่ในเกมได้นานพอที่จะเรียนรู้และพัฒนา


การยอมรับว่าการขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนั้นถือเป็นกุญแจสำคัญในการอยู่รอดในระยะยาว มืออาชีพส่วนใหญ่มีอัตราการชนะอยู่ที่ประมาณ 50–60% แต่กำไรที่ได้มากกว่าการขาดทุน และนั่นคือหัวใจสำคัญ


สร้างความมั่นใจด้วยความเรียบง่าย

นักเทรดมือใหม่จำนวนมากมักหลงใหลกับความซับซ้อน อินดิเคเตอร์แปลกใหม่ หน้าจอเทรดหลายจอ หรือการเทรดอย่างรวดเร็ว แต่ในความเป็นจริง “ความเรียบง่าย” มักเป็นผู้ชนะ กลยุทธ์ที่เชื่อถือได้ที่สุดคือกลยุทธ์ที่เข้าใจง่าย ทำซ้ำได้ และมีเหตุผลรองรับทางการตลาด


วิธีสร้างความมั่นใจเช่น:

  • โฟกัสแค่รูปแบบเดียว เช่น การเข้าซื้อเมื่อเกิดการย่อตัวในแนวโน้มขาขึ้น

  • ทดลองย้อนหลังกับกราฟเก่าแบบ Manual

  • บันทึกการเทรดในสมุด เพื่อวิเคราะห์รูปแบบและข้อผิดพลาด


ความเรียบง่ายยังช่วยให้คุณรักษาวินัย หากกลยุทธ์ของคุณต้องตีความใหม่ตลอดเวลา คุณจะลังเลหรือไม่กล้าเทรด แต่ถ้ากลยุทธ์ชัดเจนและเรียบง่าย คุณจะตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ นำไปสู่ความสม่ำเสมอ และในที่สุดจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว

สรุป: เริ่มต้นด้วยสิ่งที่เหมาะกับคุณ จากนั้นค่อยพัฒนา


ไม่มีกลยุทธ์เทรดใดที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่มีจุดเริ่มต้นที่เหมาะกับแต่ละคนมากกว่า โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่หรือคนที่เทรดเป็นงานเสริม กลยุทธ์อย่างการเทรดตามแนวโน้ม (Trend-Following), การเทรด ETF แบบสวิง (Swing Trading) และการบริหารความเสี่ยงอย่างเรียบง่าย ซึ่งเป็นทางเลือกที่เข้าถึงง่าย และให้ผลลัพธ์ที่ดีจริงในระยะยาว


แทนที่จะพยายามค้นหาวิธีที่สมบูรณ์แบบ จงเริ่มจากสิ่งที่เหมาะกับตัวคุณเอง ทดสอบมัน จดบันทึกผล และปรับปรุงไปเรื่อย ๆ เมื่อคุณมีประสบการณ์มากขึ้น ค่อยลองเทคนิคที่ซับซ้อนขึ้น แต่อย่าลืมว่า หลักพื้นฐานของการเทรดที่ดีจะยังเหมือนเดิม นั่นคือ ความชัดเจน วินัย และความยืดหยุ่นในการปรับตัว


เพราะเป้าหมายแรกของนักเทรดไม่ใช่การรวยอย่างรวดเร็ว แต่คือการ “อยู่ให้รอด” ในตลาดนี้ให้นานที่สุด และทั้งหมดนั้นเริ่มต้นจากการเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะกับชีวิตคุณ ไม่ใช่แค่เหมาะกับตลาดเพียงอย่างเดียว


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
เปิดเผยข้อดี forex ที่คุณไม่ควรพลาด
ทำความรู้จักการเทรด Option พื้นฐานและคำศัพท์สำคัญ
7 ประเภทของ Trade ที่คุณมักพบในตลาดการเงิน
โรบอทเทรดForex คู่มือความสำเร็จของระบบอัตโนมัติ
วิธีเปิดบัญชี forex กับ EBC