การขายชอร์ตคืออะไร? คู่มือสำหรับเทรดเดอร์ฉบับสมบูรณ์

2025-06-12
สรุป

เรียนรู้ว่าการขายชอร์ตคืออะไร มันทำงานอย่างไร ความเสี่ยงที่สำคัญ กลยุทธ์ และเคล็ดลับสำหรับผู้ซื้อขายที่ต้องการทำกำไรจากตลาดที่ตกต่ำหรือป้องกันความเสี่ยงพอร์ตโฟลิโอของตน

Short Selling คือกลยุทธ์การเทรดที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถทำกำไรจากการปรับตัวลงของราคาหุ้น ฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ และตลาดอื่น ๆ ได้ แม้อาจให้ผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความเสี่ยงเฉพาะตัวและต้องอาศัยความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับกลไกตลาด ข้อกำหนดด้านมาร์จิ้น และการบริหารความเสี่ยง


บทความนี้จะอธิบายวิธีการทำงานของ Short Selling เหตุผลที่นักเทรดเลือกใช้ และสิ่งที่คุณควรรู้เพื่อใช้งานกลยุทธ์นี้อย่างมีประสิทธิภาพ

Short Selling คืออะไร?

Short Selling คืออะไร?

Short Selling หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า “การขายชอร์ต” คือกลยุทธ์ที่นักเทรดขายสินทรัพย์ที่ตนเองไม่ได้เป็นเจ้าของ โดยมีเป้าหมายว่าจะซื้อคืนในราคาที่ต่ำกว่าในอนาคต นักเทรดจะทำการยืมสินทรัพย์นั้น (โดยทั่วไปคือหุ้น) จากโบรกเกอร์ แล้วขายในราคาตลาดปัจจุบัน จากนั้นหากราคาสินทรัพย์ลดลงจริงก็จะสามารถซื้อคืนในราคาที่ถูกลง คืนให้กับโบรกเกอร์ และเก็บส่วนต่างเป็นกำไร


การขายชอร์ตพบได้บ่อยในตลาดหุ้น (Equities) แต่ก็มีการใช้แพร่หลายในตลาดฟอเร็กซ์ ดัชนี และสินค้าโภคภัณฑ์ โดยอาศัยเครื่องมือทางการเงินอย่าง CFD และฟิวเจอร์ส ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถทำ Short Selling ได้โดยไม่ต้องยืมสินทรัพย์จริง


วิธีการทำงานของ Short Selling แบบ Step-by-Step


1. เปิดบัญชีมาร์จิ้น (Margin Account):

นักเทรดต้องมีบัญชีมาร์จิ้นกับโบรกเกอร์ เพื่อให้สามารถยืมสินทรัพย์และใช้เลเวอเรจในการเทรดได้ บัญชีมาร์จิ้นจะต้องมีเงินฝากขั้นต่ำและมีกฎเกณฑ์เรื่องการรักษายอดเงิน


2. เลือกสินทรัพย์เป้าหมาย:

นักเทรดวิเคราะห์สินทรัพย์ที่คิดว่ามีราคาสูงเกินมูลค่าจริงหรือมีแนวโน้มจะปรับตัวลดลง โดยใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค พื้นฐาน หรือวิเคราะห์ความรู้สึกของตลาด (Sentiment Analysis)


3. ยืมและขายสินทรัพย์:

โบรกเกอร์จะทำการยืมหุ้นหรือสินทรัพย์ให้ และนักเทรดจะขายในราคาตลาดปัจจุบันทันที


4. ติดตามสถานะการเทรด:

นักเทรดต้องเฝ้าติดตามราคาตลาดอย่างใกล้ชิด โดยหวังว่าราคาจะลดลง หากราคาปรับตัวขึ้นแทนก็อาจขาดทุนอย่างรวดเร็ว


5. ซื้อคืนและคืนสินทรัพย์:

เมื่อราคาลดลงตามคาด นักเทรดจะทำการซื้อคืนสินทรัพย์ (เรียกว่า “Cover Short” ) และคืนให้โบรกเกอร์ กำไรหรือขาดทุนจะเกิดจากส่วนต่างระหว่างราคาขายกับราคาซื้อคืน


ตัวอย่าง:

สมมติว่าคุณขายชอร์ตหุ้น 100 หุ้นในราคาหุ้นละ 100 ดอลลาร์ ราคาหุ้นตกมาอยู่ที่ 80 ดอลลาร์ คุณซื้อหุ้นคืนในราคา 8,000 ดอลลาร์ แล้วขายคืนหุ้นคืนให้โบรกเกอร์ คุณจะได้กำไรไว้ 2,000 ดอลลาร์ (ไม่รวมค่าธรรมเนียม) หากราคาหุ้นขึ้นถึง 120 ดอลลาร์ คุณจะขาดทุน 2,000 ดอลลาร์


ทำไมนักเทรดจึงเลือกทำ short selling?


  • ทำกำไรจากราคาที่ลดลง:

แรงจูงใจหลักของการขายชอร์ตคือนักเทรดคาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์จะลดลง และสามารถทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคานี้ได้


  • การป้องกันความเสี่ยง:

การขายชอร์ตสามารถช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนแบบ Long (ซื้อเก็บไว้) และทำหน้าที่เป็นการป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ


  • การค้นหาราคาที่แท้จริง:

นักขายชอร์ตช่วยทำให้ราคาตลาดสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงมากขึ้น โดยลดการเก็งกำไรเกินจริง และเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาด


กลยุทธ์ยอดนิยมของการทำ Short Selling

กลยุทธ์การขายชอร์ต


1. ขายเมื่อราคาดีดตัวขึ้นในแนวโน้มขาลง (Selling a Pullback in a Downtrend):

ขายชอร์ตเมื่อราคาดีดขึ้นชั่วคราวในตลาดขาลง โดยคาดว่าตลาดจะปรับตัวลดลงต่อไป


2. ขายเมื่อราคาทะลุแนวรับ (Breakdown from Support):

ขายชอร์ตเมื่อราคาทะลุแนวรับสำคัญ แสดงถึงความอ่อนแอของตลาดและมีโอกาสลงต่อไปอีก


3. ขายระหว่างที่ราคากำลังร่วงแรง (Active Decline Selling):

เข้าสถานะชอร์ตระหว่างที่ราคาลดลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงตลาดขาลง


4. การขายชอร์ตด้วยตราสารอนุพันธ์ (Shorting with Derivatives):

ใช้ CFD หรือออปชันในการขายชอร์ต โดยไม่จำเป็นต้องยืมหุ้นจริง


ความเสี่ยงหลักของ Short Selling

ความเสี่ยงในการขายชอร์ต

  • ขาดทุนได้ไม่จำกัด:

ต่างจากการซื้อหุ้นแบบปกติที่ขาดทุนได้สูงสุดเท่ากับเงินลงทุน การขายชอร์ตสามารถขาดทุนได้ไม่จำกัดหากราคาสินทรัพย์พุ่งขึ้น


  • การถูกเรียกหลักประกัน (Margin Call):

หากเกิดการขาดทุนโบรกเกอร์อาจเรียกให้เพิ่มเงินทุน หากไม่สามารถเพิ่มได้ทันเวลา อาจต้องปิดสถานะด้วยการขาดทุน


  • ต้นทุนการยืมสินทรัพย์:

นักเทรดต้องจ่ายดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมในการยืมสินทรัพย์ ซึ่งอาจส่งผลให้กำไรลดลง


  • การบีบบังคับซื้อคืน (Short Squeeze):

หากมีนักเทรดจำนวนมากถือสถานะชอร์ตอยู่ แล้วราคาพุ่งขึ้น อาจเกิดแรงซื้อคืนพร้อมกัน ทำให้ราคาพุ่งแรงขึ้นไปอีกส่งผลให้ขาดทุนมากขึ้น


  • ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ:

ในบางช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูง หน่วยงานกำกับดูแลอาจจำกัดหรือห้ามการขายชอร์ตชั่วคราว


เคล็ดลับสำหรับนักเทรดที่ทำ Short Selling

  • ตั้งคำสั่ง Stop-Loss:

    เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุนที่อาจรุนแรง ควรตั้ง Stop-Loss ไว้เหนือราคาที่เข้าเทรด


  • ติดตามสถานะบัญชีมาร์จิ้น:

    ตรวจสอบว่ามีเงินเพียงพอในบัญชีสำหรับกรณีที่ตลาดสวนทาง


  • ติดตามข่าวสารและปัจจัยพื้นฐาน:

    ข่าว รายงานผลประกอบการ และความเชื่อมั่นของตลาดอาจทำให้ราคาผันผวนอย่างฉับพลัน



  • กระจายความเสี่ยง:

    หลีกเลี่ยงการถือสถานะชอร์ตในสินทรัพย์หรือกลุ่มเดียวกันมากเกินไป


บทบาทของ Short Selling ในตลาด

แม้ว่าการขายชอร์ตจะถูกวิจารณ์ว่าอาจซ้ำเติมตลาดขาลง แต่ในความเป็นจริงแล้ว การขายชอร์ตมีบทบาทสำคัญในการทำให้ตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยช่วยสะท้อนราคาที่แท้จริง ลดฟองสบู่ทางการเงิน เปิดโปงบริษัทที่มีปัญหาพื้นฐาน และเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดได้อย่างมีนัยสำคัญ


สรุป


Short Selling คือเครื่องมือการเทรดที่มีความซับซ้อน ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถทำกำไรจากราคาที่ลดลง ป้องกันความเสี่ยง และส่งเสริมให้ตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้ก็มีความเสี่ยงสูง เช่น ความเสี่ยงในการขาดทุนไม่จำกัด และการถูกเรียกหลักประกัน (Margin Call)


หากนักเทรดเข้าใจกลไก วิธีการ กลยุทธ์ และข้อควรระวังอย่างถ่องแท้ การทำ Short Selling ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนที่รอบคอบและมีข้อมูลสนับสนุนอย่างเหมาะสมได้


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

แนวโน้มราคาทองคำและเงินที่ต้องจับตามอง

แนวโน้มราคาทองคำและเงินที่ต้องจับตามอง

ติดตามราคาทองคำและเงินในปัจจุบัน สำรวจแนวโน้ม 10 ปี ปัจจัยสำคัญ อัตราส่วนราคา และเรียนรู้ว่าเวลาใดอาจเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการซื้อหรือลงทุน

2025-06-13
ญี่ปุ่นใช้สกุลเงินอะไร และทำไมพ่อค้าแม่ค้าถึงชื่นชอบสกุลเงินนี้?

ญี่ปุ่นใช้สกุลเงินอะไร และทำไมพ่อค้าแม่ค้าถึงชื่นชอบสกุลเงินนี้?

เรียนรู้ว่าญี่ปุ่นใช้สกุลเงินอะไร บทบาทของญี่ปุ่นในฐานะสกุลเงินอย่างเป็นทางการ และเหตุใดจึงเป็นสกุลเงินที่ผู้ค้าสกุลเงินทั่วโลกชื่นชอบ

2025-06-13
ทำความเข้าใจ SWPPX: ข้อดี ประสิทธิภาพ และบทบาทของพอร์ตโฟลิโอ

ทำความเข้าใจ SWPPX: ข้อดี ประสิทธิภาพ และบทบาทของพอร์ตโฟลิโอ

ค้นพบว่า SWPPX ของ Schwab มอบการเข้าถึง S&P 500 ต้นทุนต่ำได้อย่างไร พร้อมมอบประสิทธิภาพที่มั่นคงและความแข็งแกร่งของพอร์ตโฟลิโอในระยะยาว

2025-06-13