FOMO คืออะไร โรคฮิตนักเทรดที่ไม่รู้ตัว

2025-04-24

ในยุคที่ข้อมูลหลั่งไหลตลอด 24 ชั่วโมง และโซเชียลมีเดียเปรียบเสมือนสนามแข่งชีวิต การรู้สึกว่าตัวเอง "ตกขบวน" หรือ "พลาดอะไรบางอย่าง" กลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับคนส่วนใหญ่ อาการแบบนี้มีชื่อเรียกในทางจิตวิทยาว่า FOMO คืออะไร หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า FOMO ย่อมาจาก Fear of Missing Out หรือ "ความกลัวที่จะพลาดสิ่งสำคัญ" ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการลงทุน ข่าวสาร เทรนด์ฮิต หรือกิจกรรมที่คนอื่นกำลังพูดถึงบนโลกออนไลน์ FOMO กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ โดยเฉพาะในแวดวงการเทรดและการลงทุน ที่อารมณ์แบบนี้อาจนำไปสู่การขาดทุนได้อย่างไม่รู้ตัว


ในอีกด้านหนึ่ง คำตรงกันข้ามของ FOMO ก็คือ JOMO หรือ Joy of Missing Out ที่หมายถึงความสุขจากการไม่ต้องตามกระแสหรือไม่สนใจว่าคนอื่นกำลังทำอะไรบนโซเชียล คนที่มี JOMO มักมีเวลาให้กับตัวเองมากขึ้น มีสมาธิกับเป้าหมายส่วนตัว และไม่ปล่อยให้อารมณ์ชั่ววูบมาควบคุมการตัดสินใจในชีวิต


ในบทความนี้ เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจว่า FOMO คืออะไร ในบริบทของการเทรดและการลงทุน ว่าทำไมนักเทรดจำนวนไม่น้อยจึงตกอยู่ในกับดักของความรู้สึก “กลัวพลาดโอกาส” และอารมณ์นี้มีผลกระทบต่อการตัดสินใจอย่างไร พร้อมทั้งแนะนำวิธีป้องกันและรับมือกับ FOMO เพื่อช่วยให้คุณเทรดอย่างมีสติและมีแผนมากยิ่งขึ้น

เอาปากกาชี้ไปที่กราฟ - EBC

FOMO คืออะไร? ในแง่จิตวิทยาและพฤติกรรมมนุษย์

จากมุมมองทางจิตวิทยา, FOMO หรือ “Fear of Missing Out” คือการตอบสนองทางอารมณ์ที่เกิดจากความกลัวที่จะพลาดโอกาสที่น่าตื่นเต้นหรือเป็นประโยชน์ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อบุคคลรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เข้าร่วมในกิจกรรมหรือกระแสที่สำคัญ เช่น การลงทุนที่ทำกำไรได้ดี หรือการเข้าร่วมในโอกาสทางสังคมที่กำลังได้รับความนิยม การรู้สึกว่า "ตกกระแส" หรือไม่ได้รับข้อมูลสำคัญ ก็สามารถทำให้เกิด FOMO ขึ้นได้ทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์


ตัวอย่างที่พบได้ง่ายคือ การเปิดตัวของเกม Pokémon GO ที่ทำให้ผู้คนทุกวัยออกจากบ้านไปตามจับโปเกม่อนบนท้องถนน ผู้ที่ไม่เล่นเกมก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเอง “ตกกระแส” จนตัดสินใจดาวน์โหลดเกมมาเล่น แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยสนใจเกมนี้มาก่อน ซึ่งกระแสความนิยมในสังคมทำให้คนจำนวนมากต้องการเข้าร่วม แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยสนใจเกมประเภทนี้มาก่อน ทั้งสองกรณีนี้แสดงให้เห็นถึงวิธีที่ FOMO สามารถกระตุ้นให้คนตัดสินใจทำสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคิดจะทำมาก่อน เพื่อไม่ให้รู้สึกพลาดอะไรไปจากความนิยมที่เกิดขึ้น


FOMO กับการลงทุน: ต้นเหตุของการขาดทุนที่คุณอาจไม่รู้ตัว

ในโลกของการเทรดและการลงทุน, FOMO (Fear Of Missing Out) หรือ "ความกลัวที่จะพลาด" เป็นอารมณ์ที่มีอิทธิพลอย่างมากในการตัดสินใจลงทุนของนักเทรด ซึ่งสามารถทำให้เกิดการตัดสินใจที่เร่งรีบและไม่มีการวางแผนอย่างรอบคอบ โดยทั่วไปแล้ว FOMO จะกระตุ้นให้เทรดเดอร์ลงมือทำอะไรบางอย่างโดยไม่คำนึงถึงการวิเคราะห์ที่ถูกต้อง อารมณ์นี้มักเกิดขึ้นจากความกลัวที่จะพลาดโอกาสหรือเหตุการณ์สำคัญในตลาด ซึ่งนำไปสู่พฤติกรรมที่เสี่ยงและทำให้ขาดทุนได้ง่าย


FOMO กับการเทรด Forex

ในตลาด Forex, FOMO มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจของเทรดเดอร์ เนื่องจากความกลัวที่จะพลาดโอกาสทำกำไรทำให้เกิดการตัดสินใจที่ขาดการวางแผนที่ดี โดยเทรดเดอร์บางรายอาจจะตัดสินใจเปิดหรือปิดออเดอร์เพียงเพราะกลัวว่าหากไม่ทำในตอนนี้จะพลาดโอกาสทองไป โดยที่ไม่ได้พิจารณาถึงข้อมูลที่แท้จริงและไม่ได้ใช้การวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล


อารมณ์ที่ทำให้เกิด FOMO ในการเทรด Forex อาจแบ่งออกได้เป็น:

1.ความกลัว: กลัวพลาดโอกาสในการทำกำไรหากไม่ลงทุนในช่วงเวลานั้น

2.ความโลภ: ต้องการทำกำไรให้มากที่สุด จึงไม่อยากพลาดโอกาสที่เห็นคนอื่นทำกำไรได้

3.ความใจร้อน: รีบร้อนตัดสินใจเทรดโดยไม่วางแผนหรือการวิเคราะห์ที่ชัดเจน

4.การขาดความมั่นใจ: ไม่มั่นใจในแผนการเทรดของตัวเองและมักจะเทรดตามกระแสหรือคำแนะนำจากคนอื่น


FOMO อาจทำให้การเทรด Forex กลายเป็นการตัดสินใจที่ขึ้นอยู่กับอารมณ์ และขาดการวางแผนที่ดีในระยะยาว ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนได้


ผลกระทบของ FOMO ต่อการเทรด

-การเทรดตามกระแสโดยขาดแผนรองรับ - นักลงทุนมักกระโจนเข้าซื้อเมื่อเห็นราคาพุ่งสูงเพียงเพราะกลัวโอกาสจะหลุดมือ โดยไม่คำนึงว่าอาจกำลังซื้อในจุดสูงสุดของตลาด

-ปิดออเดอร์ก่อนเวลาอันควร - ด้วยความกังวลว่ากำไรจะหายไป นักเทรดจำนวนมากเลือกขายพอร์ตเร็วเกินไป จนพลาดโอกาสทำกำไรในระยะยาว

-วงจรขาดทุนซ้ำซาก - เมื่อตกอยู่ในภาวะ FOMO บ่อยครั้ง จะทำให้เทรดเดอร์ขาดความมั่นใจ ไม่อดทนถือพอร์ตตามแผนที่วางไว้ สุดท้ายก็ขาดทุนต่อเนื่อง


6 อารมณ์ทำลายล้างจาก FOMO

อาการกลัวพลาดโอกาสนี้มักมาพร้อมกับอารมณ์เชิงลบที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ:

-ความโลภ - ต้องการกำไรแบบเร็วๆ โดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยง

-ความกลัว - กังวลว่าตลาดจะพลิกผันจนไม่กล้าตัดสินใจ

-ความเร่าร้อน - ต้องการเอาชนะตลาดให้ได้ในทันที

-ความอิจฉา - รู้สึกไม่พอใจเมื่อเห็นนักเทรดคนอื่นได้กำไร

-ความใจร้อน - ขาดความอดทนรอสัญญาณการเทรดที่เหมาะสม

-ความกังวล - ครุ่นคิดมากเกินไปจนตัดสินใจผิดพลาด


หากคุณไม่รู้เท่าทัน FOMO ในการลงทุน อารมณ์เหล่านี้อาจกลายเป็นตัวเร่งให้คุณขาดทุนอย่างไม่รู้ตัว การเข้าใจและจัดการกับ FOMO จึงเป็นทักษะสำคัญที่นักลงทุนยุคใหม่ต้องมี เพื่อให้สามารถเทรดอย่างมีสติและยืนระยะในตลาดได้อย่างยั่งยืน


ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิด FOMO ในตลาดการเงิน

FOMO หรือ "Fear of Missing Out" เป็นภาวะทางอารมณ์ที่พบได้บ่อยในโลกของการลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว หลายคนอาจไม่รู้ตัวว่าแรงกระตุ้นภายนอกบางอย่างอาจเป็นตัวจุดชนวนให้เกิด FOMO ในตลาดการเงิน และส่งผลให้ตัดสินใจผิดพลาดจนเกิดการขาดทุน เรามาดู 5 ปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้เกิด FOMO กัน


1. ตลาดผันผวน

เมื่อราคาสินทรัพย์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นักลงทุนจำนวนมากมองว่านี่คือ “โอกาสทอง” แต่ในความจริง ช่วงเวลาที่ตลาดผันผวนกลับเป็นกับดักของ FOMO สำหรับหลายคน ความกลัวว่าจะพลาดโอกาสในการทำกำไรอย่างรวดเร็ว ทำให้รีบซื้อขายโดยขาดการวิเคราะห์อย่างรอบคอบ


2. ชัยชนะครั้งก่อน

การประสบความสำเร็จในการลงทุนครั้งก่อน อาจสร้างความมั่นใจเกินจริง เทรดเดอร์บางคนเริ่มคิดว่าตนเอง “เข้าใจตลาดแล้ว” และเพิ่มความเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว ความมั่นใจแบบนี้อาจกลายเป็นแรงผลักให้ตกหลุมพราง FOMO โดยไม่ทันสังเกต


3. การขาดทุนซ้ำซาก

หลังจากประสบกับการขาดทุน นักลงทุนมักกลับเข้าสู่ตลาดด้วยความลังเลและกลัวจะพลาดอีกครั้ง ความรู้สึกไม่มั่นใจนี้สามารถกระตุ้น FOMO ได้อย่างง่ายดาย จนนำไปสู่การตัดสินใจที่ขาดเหตุผล


4. ข่าวและข่าวลือ

ข่าวเศรษฐกิจหรือข่าวลือที่แพร่กระจายรวดเร็วในโลกออนไลน์ มักทำให้นักลงทุนรีบตัดสินใจโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน การลงทุนที่ขาดการยืนยันข้อเท็จจริงจึงมักนำไปสู่ภาวะ FOMO และการขาดทุนตามมา


5. โซเชียลมีเดีย

โพสต์ของอินฟลูเอนเซอร์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ที่แสดงความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง มักกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอยาก “ทำได้เหมือนเขา” ความเปรียบเทียบทางสังคมแบบนี้สามารถจุดประกาย FOMO ได้อย่างรวดเร็ว โดยที่คุณไม่ทันรู้ตัว


4 เคล็ดลับหลีกเลี่ยง FOMO ขณะเทรด ที่นักลงทุนมือใหม่ต้องรู้

FOMO หรือ Fear of Missing Out คือหนึ่งในอารมณ์ที่ทำให้นักลงทุนหลายคนตัดสินใจผิดพลาดในการเทรด โดยเฉพาะในช่วงตลาดผันผวนหรือมีข่าวแรงๆ การรู้จักควบคุมอารมณ์และเทรดอย่างมีวินัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ นี่คือ 4 เคล็ดลับหลีกเลี่ยง FOMO ที่จะช่วยให้คุณลงทุนอย่างมั่นคงและยั่งยืน


1. อย่าร้อนวิชา รีบเชื่อข่าวลือ

หนึ่งในพฤติกรรมที่ผลักให้เกิด FOMO คือการตัดสินใจลงทุนตามข่าวลือหรือคำแนะนำของผู้อื่นโดยไม่ตรวจสอบ ความเร่งรีบมักทำให้คุณมองข้ามข้อมูลสำคัญ ดังนั้น ควรหาข้อมูลรอบด้านก่อนลงทุน และอย่าปล่อยให้ความเร่าร้อนมากำหนดการตัดสินใจ


2. วางแผนการเงินให้ชัดเจน

การมีแผนทางการเงินที่ชัดเจน เช่น กำหนดเป้าหมายการลงทุนในระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงประเมินความเสี่ยงที่รับได้ จะช่วยให้คุณมีหลักยึด ไม่หวั่นไหวไปตามกระแส ยิ่งคุณยึดมั่นกับแผนการลงทุนของตัวเองมากเท่าไร ก็ยิ่งลดโอกาสตกหลุมพรางของ FOMO ได้มากขึ้น


3. เอาชนะอคติส่วนตัว

ในการเทรด เรามักมีอคติทางความคิดโดยไม่รู้ตัว เช่น Confirmation Bias หรือการหาข้อมูลที่สนับสนุนความเชื่อของตัวเองเพียงด้านเดียว รวมถึง Overconfidence หรือความมั่นใจเกินเหตุ การยอมเปิดใจรับข้อมูลที่ขัดแย้งกับความคิดเดิม และหมั่นประเมินการตัดสินใจของตัวเองอยู่เสมอ จะช่วยให้คุณตัดสินใจอย่างมีเหตุผลมากขึ้น


4. มองไกล ไม่หวังรวยเร็ว

การหวังผลตอบแทนจากการเทรดเพียงครั้งเดียวคือกับดักที่ FOMO ชอบซ่อนตัวอยู่ นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในระยะยาวมักไม่เน้น “จังหวะทอง” แต่ใช้เวลา ค่อยๆ สะสมความมั่งคั่งจากวินัยและการมองการณ์ไกล


3 ยาป้องกัน FOMO สำหรับนักลงทุนมือใหม่

1. ลงทุนแบบมีวินัยและเป็นระบบ

การลงทุนที่ดีควรเริ่มจาก “แผน” ไม่ใช่ “อารมณ์” กำหนดจุดทำกำไร จุดตัดขาดทุน และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด การมีระบบที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณไม่ตัดสินใจเพราะความรู้สึกชั่ววูบ และสามารถอยู่รอดในตลาดได้ในระยะยาว


2. กระจายการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยง

อย่าทุ่มเงินทั้งหมดในหุ้นตัวเดียว การกระจายพอร์ตไปในสินทรัพย์หลากหลายที่ไม่เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน จะช่วยลดโอกาสขาดทุนพร้อมกันทั้งพอร์ต และเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง


3. เริ่มจากการลงทุนระยะยาว

นักลงทุนมือใหม่ควรเน้นลงทุนแบบระยะยาวเพื่อสะสมประสบการณ์ ไม่ควรเน้นเทรดสั้นๆ ในช่วงแรก เพราะจะทำให้คุณเสี่ยงตกอยู่ในภาวะเครียด และมักจะนำไปสู่อาการ FOMO ได้ง่าย นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในระยะยาวมักเปรียบการลงทุนเหมือนการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่การวิ่ง 100 เมตร


FOMO มีข้อดีอย่างไร?

แม้ว่า FOMO (Fear of Missing Out) หรือการกลัวพลาดโอกาสจะดูเหมือนเป็นอารมณ์ที่ต้องคอยไล่ตามกระแสใหม่ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่จริงๆ แล้ว FOMO ก็มีข้อดีบางอย่างที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ดังนี้:


1. กระตุ้นแรงจูงใจ

FOMO สามารถกระตุ้นให้เราอยากมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือโอกาสที่เกิดขึ้นทันที ความกลัวที่จะพลาดสิ่งดีๆ นี้ทำให้เรามีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาตัวเองและคว้าสิ่งที่ดีที่สุดไว้ในมือ


2. เพิ่มการมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างและทางสังคม

การกลัวว่าจะตามข่าวไม่ทันหรือไม่รู้เท่าคนอื่นสามารถเพิ่มการมีปฏิสัมพันธ์กับสังคมได้มากขึ้น อาจทำให้เรามีการพูดคุย หรือร่วมกิจกรรมกับคนรอบข้างมากขึ้น สร้างโอกาสในการเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น


3. มีโอกาสทำสิ่งใหม่ๆ

FOMO ทำให้เราไม่กลัวที่จะลองทำสิ่งที่ไม่คุ้นเคย และออกจากกรอบเดิมๆ บางครั้งการตัดสินใจเพราะความกลัวพลาดสามารถผลักดันให้เราก้าวข้ามข้อจำกัดของตัวเอง และลองสิ่งใหม่ๆ ที่อาจจะเป็นโอกาสสำคัญในอนาคต


ดังนั้น แม้ว่า FOMO อาจจะนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่รอบคอบในบางครั้ง แต่หากเราควบคุมและใช้มันในทางที่ดี FOMO ก็สามารถเป็นแรงขับเคลื่อนในการเติบโตและพัฒนาตนเองได้อย่างไม่รู้ตัว


สรุป FOMO คืออะไร และทำไมเราต้องรู้เท่าทันมันก่อนลงทุน FOMO หรือ Fear of Missing Out ไม่ใช่แค่ความกลัวตกเทรนด์ แต่มันคือพฤติกรรมที่เกิดจากแรงกดดันทางสังคม อารมณ์ และความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผล ในโลกของการลงทุน โดยเฉพาะการเทรดระยะสั้น FOMO คือศัตรูเงียบที่สามารถบ่อนทำลายแผนการลงทุนได้โดยที่เราไม่รู้ตัว


หลายคนเผลอทำตามฝูงชน รีบซื้อ รีบขาย เพียงเพราะไม่อยากพลาดโอกาสที่คนอื่นกำลังได้กำไร แต่ถ้าคุณ “รู้ทัน FOMO” และเรียนรู้วิธีควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ คุณก็จะสามารถตัดสินใจอย่างมีสติ และเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนระยะยาวอย่างยั่งยืน


ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจกระโดดเข้าลงทุนในหุ้น คริปโต หรือสินทรัพย์อื่น ๆ ลองหยุดและถามตัวเองสักนิดว่า “ฉันกำลังลงทุน... หรือแค่กลัวจะพลาด?” แล้วคุณจะเริ่มเข้าใจว่า FOMO ไม่ใช่แค่คำแฟนซีในโลกออนไลน์ แต่มันคือกับดักทางจิตวิทยาที่ทุกคนต้องเรียนรู้และเอาชนะให้ได้


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
Fear of Missing Out คืออะไร? อธิบายง่าย เข้าใจไว
ความท้าทายด้านจิตวิทยาการ Copy Trade และวิธีเอาชนะ
เข้าใจ NGMI ให้ทันเกม! คำนี้ในโลกคริปโต-หุ้นคืออะไร?
ATH คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญกับการเทรด
Bullish คืออะไร? เทคนิคจับสัญญาณตลาดขาขึ้นแบบมือโปร