การปรับสมดุลอัตราแลกเปลี่ยนทำได้โดยการซื้อขายเงินตราต่างประเทศในตลาดเพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงินสนับสนุนการค้าและรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
การปรับสมดุลอัตราแลกเปลี่ยน หมายถึง การที่ธนาคารกลางดำเนินมาตรการในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อปรับหรือแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยน โดยอาศัยการซื้อหรือขายเงินตราต่างประเทศเพื่อปรับสมดุลอุปสงค์และอุปทานของตลาด ควบคุมระดับค่าเงินหรือป้องกันความผันผวนที่รุนแรงเกินไป
วัตถุประสงค์ของการปรับสมดุลอัตราแลกเปลี่ยนคือการรักษาเสถียรภาพของค่าเงิน เพื่อส่งเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขัน ธนาคารกลางอาจแทรกแซงตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อป้องกันไม่ให้ค่าเงินอ่อนค่าหรือแข็งค่าเกินไป เพื่อจะช่วยรักษาสมดุลของการค้าระหว่างประเทศ
ประการแรก ธนาคารกลางสามารถดำเนินมาตรการปรับสมดุลอัตราแลกเปลี่ยนโดยการแทรกแซงค่าเงิน เมื่อค่าเงินของประเทศมีความผันผวนอย่างรุนแรงหรือไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลคาดการณ์ ธนาคารกลางอาจใช้มาตรการแทรกแซง เช่น การซื้อหรือขายสกุลเงินในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อส่งผลต่อทิศทางของอัตราแลกเปลี่ยน หากธนาคารกลางเห็นว่าค่าเงินของประเทศแข็งค่ามากเกินไป อาจดำเนินมาตรการขายสกุลเงินของประเทศเพื่อเพิ่มอุปทานเงินตราต่างประเทศและทำให้ค่าเงินอ่อนลง ในทางกลับกัน หากค่าเงินของประเทศอ่อนค่ามากเกินไป ธนาคารกลางอาจเข้าซื้อสกุลเงินของตนเพื่อลดอุปทานเงินตราต่างประเทศและทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น
ประการที่สอง ธนาคารกลางสามารถดำเนินมาตรการปรับสมดุลอัตราแลกเปลี่ยนโดยการแทรกแซงตลาดเงินตราต่างประเทศโดยตรง ผ่านการซื้อหรือขายเงินตราต่างประเทศเพื่อส่งผลต่ออุปสงค์และอุปทานของตลาด ด้วยการเพิ่มหรือลดปริมาณเงินตราต่างประเทศในตลาด ธนาคารกลางสามารถปรับระดับอัตราแลกเปลี่ยนให้เหมาะสมเพื่อบรรลุเป้าหมายในการควบคุมเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ธนาคารกลางยังสามารถดำเนินมาตรการปรับสมดุลอัตราแลกเปลี่ยนผ่านนโยบายการเงิน ซึ่งเป็นเครื่องมือในการควบคุมเศรษฐกิจโดยการปรับปริมาณเงินและระดับอัตราดอกเบี้ย ธนาคารกลางสามารถปรับอัตราดอกเบี้ยเพื่อดึงดูดหรือชะลอการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่ออุปสงค์และอุปทานในตลาดเงินตราต่างประเทศ รวมถึงระดับอัตราแลกเปลี่ยน
ยิ่งไปกว่านั้น การปรับสมดุลอัตราแลกเปลี่ยนยังสามารถใช้เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินและควบคุมความผันผวนที่มากเกินไป ตัวอย่างเช่น หากสกุลเงินของประเทศใดอ่อนค่าลงอย่างมาก ธนาคารกลางอาจเข้าซื้อสกุลเงินของตนเองเพื่อเพิ่มอุปสงค์และหนุนค่าเงินให้แข็งขึ้น ในทางกลับกัน หากสกุลเงินแข็งค่ามากเกินไป ธนาคารกลางอาจขายสกุลเงินของตนเพื่อลดอุปทานในตลาดและรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยน
การปรับสมดุลอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือสำคัญของธนาคารกลาง ซึ่งมักใช้แทรกแซงตลาดและส่งผลต่อมูลค่าของสกุลเงิน มาตรการดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ทั้งผ่านการแทรกแซงโดยตรงในตลาดหรือผ่านนโยบายอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ การดำเนินการปรับสมดุลอัตราแลกเปลี่ยนมักต้องอาศัยปริมาณทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่เพียงพอและความสามารถในการรักษาเสถียรภาพของตลาด
โดยสรุป การปรับสมดุลอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือสำคัญของธนาคารกลางในการแทรกแซงตลาดเพื่อปรับอัตราแลกเปลี่ยนให้เหมาะสม โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งส่งผลสำคัญต่อการค้าระหว่างประเทศความมั่นคงทางการเงินและการพัฒนาเศรษฐกิจ
ขอบเขตของการปรับสมดุลอัตราแลกเปลี่ยนประกอบด้วย :
เงินตราต่างประเทศที่กันสำรองไว้ในรูปแบบต่าง ๆ
เงินตราต่างประเทศที่ถือครองโดยบริษัทที่มีการลงทุนจากต่างชาติ
เงินตราต่างประเทศที่ได้รับบริจาคจากชาวจีนโพ้นทะเล รวมถึงชาวฮ่องกงและมาเก๊า
เงินตราต่างประเทศและเงินฝากสกุลต่างประเทศที่บุคคลทั่วไปถือครอง
เงินตราต่างประเทศประเภทอื่น ๆ ที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานบริหารเงินตราต่างประเทศของรัฐ
ติดตามราคาทองคำและเงินในปัจจุบัน สำรวจแนวโน้ม 10 ปี ปัจจัยสำคัญ อัตราส่วนราคา และเรียนรู้ว่าเวลาใดอาจเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการซื้อหรือลงทุน
2025-06-13เรียนรู้ว่าญี่ปุ่นใช้สกุลเงินอะไร บทบาทของญี่ปุ่นในฐานะสกุลเงินอย่างเป็นทางการ และเหตุใดจึงเป็นสกุลเงินที่ผู้ค้าสกุลเงินทั่วโลกชื่นชอบ
2025-06-13ค้นพบว่า SWPPX ของ Schwab มอบการเข้าถึง S&P 500 ต้นทุนต่ำได้อย่างไร พร้อมมอบประสิทธิภาพที่มั่นคงและความแข็งแกร่งของพอร์ตโฟลิโอในระยะยาว
2025-06-13