เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-27
อัปเดตเมื่อ: 2025-12-29
ราคาทองคำ เงิน แพลทินัม และแพลเลเดียม ต่างพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันที่ 26 ธันวาคม โดยแรงปรับขึ้นที่โดดเด่นที่สุดกระจุกตัวอยู่ในโลหะที่มีขนาดตลาดเล็กกว่าและมีสภาพคล่องในการซื้อขายต่ำกว่า ณ เวลา 11:53 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ (EST) ราคาสปอตอยู่ที่ ทองคำ 4,534.80 ดอลลาร์ เงิน 76.17 ดอลลาร์ แพลทินัม 2,415.00 ดอลลาร์ และแพลเลเดียม 1,886.00 ดอลลาร์ โดยแพลเลเดียมปรับขึ้นถึง 11.01% ในวันเดียว ขณะที่ราคาเงินเพิ่มขึ้น 6.01%
ณ เวลา 11:53 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ (EST) ราคาทองคำอยู่ที่ 4,534.80 ดอลลาร์ฝั่งซื้อ (bid) และ 4,536.80 ดอลลาร์ฝั่งขาย (ask) เพิ่มขึ้น 56.20 ดอลลาร์ หรือ 1.25% หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบ 4,475.10–4,550.80 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาเงินอยู่ที่ 76.17 ดอลลาร์ฝั่งซื้อ และ 76.29 ดอลลาร์ฝั่งขาย เพิ่มขึ้น 4.32 ดอลลาร์ หรือ 6.01% โดยมีช่วงการซื้อขายระหว่าง 71.89–76.40 ดอลลาร์
ราคาแพลทินัมอยู่ที่ 2,415.00 ดอลลาร์ฝั่งซื้อ และ 2,425.00 ดอลลาร์ฝั่งขาย เพิ่มขึ้น 177.00 ดอลลาร์ หรือ 7.91% หลังจากซื้อขายในกรอบ 2,239.00–2,475.00 ดอลลาร์ ส่วนแพลเลเดียมอยู่ที่ 1,886.00 ดอลลาร์ฝั่งซื้อ และ 1,926.00 ดอลลาร์ฝั่งขาย เพิ่มขึ้น 187.00 ดอลลาร์ หรือ 11.01% โดยทำจุดต่ำสุดที่ 1,702.00 ดอลลาร์ และจุดสูงสุดที่ 1,937.00 ดอลลาร์
ราคาทองคำยังคงยืนอยู่ในเขตทำสถิติสูงสุด หลังจากขยับขึ้นทำจุดสูงใหม่ในช่วงการซื้อขายฝั่งเอเชีย โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย และความคาดหวังว่าทิศทางนโยบายของสหรัฐในระยะถัดไปมีแนวโน้มผ่อนคลายมากกว่าตึงตัว นอกจากนี้ ความต้องการจากธนาคารกลางและกระแสเงินลงทุนยังคงเป็นปัจจัยสำคัญของตลาด ท่ามกลางราคาที่เร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปลายปี
การพุ่งขึ้นของราคาเงินสู่โซนกลาง 70 ดอลลาร์ ได้รับแรงหนุนทั้งจากโมเมนตัมของราคาและปัจจัยพื้นฐาน โดยภาวะอุปทานที่ตึงตัวอย่างต่อเนื่องปะทะกับอุปสงค์ภาคอุตสาหกรรมที่ยังอยู่ในระดับสูง แม้ภาคการผลิตในปี 2025 จะผันผวนก็ตาม สถาบัน Silver Institute ระบุว่า ปี 2025 จะเป็นปีที่ห้าติดต่อกันที่ตลาดเงินเผชิญภาวะขาดดุลเชิงโครงสร้าง โดยคาดว่าอุปสงค์ทั่วโลกยังอยู่ราว 1.12 พันล้านออนซ์ ทำให้ตลาดโลหะจริงมีความอ่อนไหวต่อแรงกระแทกจากสต็อกและกระแสการไหลของสินค้า
การปรับตัวขึ้นของแพลทินัมสะท้อนส่วนผสมระหว่างอุปทานที่จำกัด ความต้องการโลหะมีค่าที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กลับมา และการหมุนพอร์ตของนักลงทุน เนื่องจากระดับราคาทองคำที่สูงขึ้นเอื้อต่อกลยุทธ์การเทรดเชิงมูลค่าเปรียบเทียบ (relative-value trades) โดยสภาการลงทุนแพลทินัมโลก (World Platinum Investment Council) คาดการณ์ว่าปี 2025 จะเป็นปีที่สามติดต่อกันที่ตลาดแพลทินัมขาดดุล ในระดับราว 692,000 ออนซ์ ซึ่งเป็นฉากหลังที่ทำให้ราคามีความเสี่ยงต่อการปรับขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อสภาพคล่องเบาบาง
การพุ่งแรงของแพลเลเดียมยิ่งตอกย้ำพลวัตด้านสภาพคล่องดังกล่าว ซึ่งถูกขยายผลด้วยสถานะการลงทุนและความตื้นของตลาดที่มีขนาดเล็กกว่า แม้ภาพอุปสงค์ระยะยาวยังผูกโยงกับการใช้งานในตัวเร่งปฏิกิริยารถยนต์และจังหวะการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า แต่งานวิจัยในอุตสาหกรรมยังชี้ว่า ตลาดปี 2025 มีแนวโน้มใกล้สมดุล ซึ่งยังสามารถก่อให้เกิดความผันผวนรุนแรงได้ เมื่อความพร้อมของอุปทานและเงื่อนไขทางการเงินตึงตัวขึ้นอย่างฉับพลัน
นักเทรดกำลังจับตาว่า ราคาเงินจะสามารถทรงตัวเหนือระดับกลาง 70 ดอลลาร์ได้หรือไม่ และราคาทองคำจะยังยืนเหนือ 4,500 ดอลลาร์ได้หรือเปล่าหลังจากการทำสถิติสูงสุดรอบล่าสุด โดยมีแนวโน้มว่าความผันผวนจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจนถึงช่วงเปลี่ยนผ่านปลายปี เนื่องจากสภาพคล่องในตลาดยังไม่สม่ำเสมอ
สำหรับแพลทินัมและแพลเลเดียม ประเด็นสำคัญในระยะใกล้อยู่ที่สัญญาณของภาวะอุปทานโลหะจริงที่ตึงตัว และความคาดหวังด้านอุปสงค์ที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมตัวเร่งปฏิกิริยารถยนต์ (autocatalyst) ซึ่งข่าวด้านนโยบายและการเปลี่ยนแปลงของกระแสเงินลงทุนสามารถขับเคลื่อนราคาได้อย่างรวดเร็ว ในตลาดที่สภาพคล่องเบาบางเช่นนี้ ความแตกต่างระหว่างการปรับขึ้นอย่างเป็นระเบียบกับการถูกบีบสถานะ (short squeeze) อาจขึ้นอยู่กับการจัดวางสถานะการลงทุนของผู้เล่นในตลาด และความพร้อมของอุปทานโลหะในระยะสั้น
ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหานี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาให้เป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรนำไปใช้เป็นหลักในการตัดสินใจ ความเห็นใดๆ ที่ปรากฏในเนื้อหานี้ไม่ได้เป็นการแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่าการลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือกลยุทธ์การลงทุนใดๆ เหมาะสมสำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
