ตลาดหุ้นสหรัฐฯ สะดุด! S&P 500 ปิดลบเล็กน้อย หลังแรงเทขายหุ้นกลุ่ม AI ฉุดตลาด
简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ สะดุด! S&P 500 ปิดลบเล็กน้อย หลังแรงเทขายหุ้นกลุ่ม AI ฉุดตลาด

เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-16

สัปดาห์นี้เริ่มต้นด้วยความผันผวนเล็กน้อยในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่น่าจับตามอง โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา (15 ธ.ค.) ดัชนีหลักอย่าง S&P 500 ปิดตลาดลดลงเล็กน้อยที่ 0.16% (ปิดที่ 6,816.51 จุด) หลังจากที่เปิดตลาดมาในแดนบวก สาเหตุหลักมาจากแรงกดดันในหุ้นกลุ่ม "ลูกรัก" ของตลาดอย่างปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI นั่นเองครับ

ในขณะเดียวกัน ดัชนีอื่นๆ ก็มีการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ:

  • Dow Jones: ลดลง 0.09% (ปิดที่ 48,416.56 จุด)

  • Nasdaq Composite: ลดลง 0.59% (ปิดที่ 23,057.41 จุด)

trade.jpeg


TradingView Image.jpeg


ต้องบอกว่าช่วงนี้กระแส "ต่อต้าน AI" เริ่มกลับมาหนาหูในหมู่นักลงทุนระยะสั้น หุ้นบิ๊กเนมที่เคยเป็นตัวแบกตลาดเริ่มโดนเทขายทำกำไรออกมาอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะ:

  • Broadcom: ร่วงลงกว่า 5%

  • Oracle: ปรับตัวลดลงกว่า 2% (หลังจากร่วงหนัก 12.7% ในสัปดาห์ก่อนหน้า)

  • Microsoft: ก็หนีไม่พ้นแรงกดดันนี้เช่นกัน

พฤติกรรมนี้สะท้อนให้เห็นถึง Sector Rotation หรือการหมุนเวียนกลุ่มลงทุน นักลงทุนเริ่มโยกเงินออกจากกลุ่มเทคโนโลยีที่เติบโตสูง (แต่ราคาแพง) ไปยังกลุ่มที่ "ปลอดภัย" และทนทานต่อสภาวะเศรษฐกิจมากกว่า เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Discretionary), กลุ่มอุตสาหกรรม และกลุ่มสุขภาพ (Healthcare) ซึ่งมีการเข้าซื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

Note for Traders: การที่เงินทุนไหลออกจาก Tech ไปยัง Defensive Stocks เป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังระมัดระวังตัว แต่ความผันผวนนี้แหละครับ คือจังหวะทำกำไรสำหรับเทรดเดอร์ที่มองเกมขาด


มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: วิกฤตฟองสบู่ หรือแค่การ "พักหายใจ"?

แม้กราฟจะดูแดงเถือกในกลุ่มเทคฯ แต่ คุณ David Wagner หัวหน้าฝ่ายตราสารทุนจาก Aptus Capital Advisors ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจผ่าน CNBC ว่า:

“ตอนนี้ดูเหมือนใครๆ ก็เกลียดการลงทุนใน AI แต่ผมมองว่าแก่นสำคัญที่ตลาดยังประเมินต่ำไปคือ อำนาจการทำกำไร ของบริษัทบิ๊กเทคฯ เหล่านี้ ตราบใดที่รายได้ยังโต อัตรากำไรยังขยาย ปีหน้าเราจะยังเห็นผลตอบแทนที่แข็งแกร่งครับ”

คุณ Wagner ยังมองว่าการปรับฐานลงมาบ้างเป็นเรื่อง "ปกติ" และ "ดีต่อสุขภาพตลาด" ด้วยซ้ำ แม้ว่าการปรับตัวขึ้นรับคริสต์มาส (Santa Claus Rally) อาจจะเกิดขึ้นไปบ้างแล้ว แต่เขายังเชื่อว่าตลาดยังมีโอกาสไปต่อได้ หากปัจจัยพื้นฐานยังไม่เปลี่ยน


จับตาเศรษฐกิจสัปดาห์นี้: ตัวแปรสำคัญที่กำหนดทิศทาง

นอกจากเรื่องหุ้นรายตัวแล้ว สัปดาห์นี้ยังมี "บิ๊กอีเวนต์" ทางเศรษฐกิจที่นักลงทุนต้องเกาะติดหน้าจอครับ เพราะข้อมูลเหล่านี้อาจเป็นตัวชี้ชะตา Fed และทิศทางดอลลาร์สหรัฐ

  1. การจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm Payrolls) เดือน พ.ย.:

  • นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 50,000 ตำแหน่ง (ลดลงฮวบฮาบจากเดือน ก.ย. ที่ 119,000 ตำแหน่ง)

  • ผลกระทบ: หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาดมากๆ อาจกดดันดอลลาร์แต่อาจหนุนให้ Fed ผ่อนคลายนโยบายเร็วขึ้น

  • ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI): จะประกาศในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งจะเป็นตัววัดเงินเฟ้อที่สำคัญมาก


  • สรุปกลยุทธ์และการเตรียมตัว

    ตลาดช่วงนี้อยู่ในโหมด "Wait and See" ผสมกับ "Rotation" การเทรดในช่วงที่ข้อมูลสำคัญ (ข่าว Non-farm) กำลังจะออก ต้องอาศัยความรวดเร็วและความแม่นยำของข้อมูล

    • ถ้าคุณเป็นสายถือยาว: การย่อตัวของหุ้น AI พื้นฐานดี อาจเป็นจังหวะในการสะสม (Buy on Dip)

    • ถ้าคุณเป็นสายเก็งกำไร: จับตาค่าเงินดอลลาร์ และทองคำ ที่จะผันผวนแรงตามตัวเลขเศรษฐกิจ


    บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน บทความนี้สะท้อนมุมมองของ EBC Financial Group และหน่วยงานทั่วโลกของบริษัทเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการเงินหรือการลงทุน การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และอัตราแลกเปลี่ยน (FX) มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้สูญเสียเงินลงทุนเริ่มต้นทั้งหมดหรือมากกว่า โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินก่อนตัดสินใจลงทุน EBC Financial Group และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดจากการอ้างอิงข้อมูลนี้ 

บทความแนะนำ
ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ ขยับสูง รับแรงหนุนจากความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของเฟด
ตลาดร่วงแรงวันนี้เพราะอะไร? วิเคราะห์ปัจจัยกระทบและสัญญาณสำคัญ
ตลาดจับตาแรง! งบการเงิน Nvidia และตัวเลข CPI เขย่าทิศทางการลงทุน
ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ ดีดตัวก่อนวันหยุด พร้อมจับตาทิศทางตลาดต่อไป
ปี 2025 จะมี Santa Claus Rally หรือไม่?