2025-10-07
7 ต.ค. 2025 - หุ้นกลุ่มชิปนำตลาดหลัง AMD ประกาศจะจัดหา AI ชิปให้กับ OpenAI ซึ่งอาจสร้างรายได้ปีละหลายหมื่นล้านดอลลาร์ และเปิดโอกาสให้ OpenAI เข้าถือหุ้นได้สูงสุดถึง 10% ส่งผลให้หุ้น AMD พุ่งขึ้นถึง 23.7% และดัชนี Philadelphia Semiconductor Index เพิ่มขึ้น 2.9% ขณะที่ดัชนี Dow Jones ลดลงเล็กน้อย 0.14% ปิดที่ 46,694.97 จุด ส่วน S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.36% ที่ 6,740.28 จุด และ Nasdaq บวก 0.71% ปิดที่ 22,941.67 จุด
โรเบิร์ต พาฟลิค ผู้จัดการพอร์ตอาวุโสจาก Dakota Wealth กล่าวว่า “แม้รัฐบาลยังปิดทำการ แต่ตลาดยังคงมองบวกต่อหุ้นเทคโนโลยีและกลุ่มบริโภค โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ AI” พร้อมเตือนว่าคลื่นกระแสนี้ “ย่อมถึงจุดสูงสุดและอาจชะลอตัวในที่สุด แต่ยากที่จะรู้ว่าอยู่จุดใดของวัฏจักรแล้ว”
การปิดหน่วยงานรัฐทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจหลักถูกเลื่อนการเผยแพร่ นักลงทุนจึงหันไปพึ่งข้อมูลทางเลือก เช่น รายงานสินเชื่อผู้บริโภค ความต้องการสินเชื่อที่อยู่อาศัย และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกน เพื่อประเมินโอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ย ซึ่งตลาดประเมินความเป็นไปได้ถึง 94.6% ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนตุลาคม
ในหมู่หุ้นรายตัว เทสลาพุ่งขึ้น 5.5% หลังประกาศจัดงานพิเศษผ่านแพลตฟอร์ม X สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ Starbucks ร่วง 5% หลัง TD Cowen ปรับลดราคาเป้าหมายโดยอ้างภาวะตลาดแรงงานอ่อนแอในกลุ่ม Gen Z ส่วนหุ้น Verizon ลดลง 5.1% หลังแต่งตั้งแดน ชูลแมน อดีตซีอีโอของ PayPal ขึ้นดำรงตำแหน่งใหม่
บิตคอยน์ทะลุระดับ 125,000 ดอลลาร์ในวันอาทิตย์ หนุนหุ้นกลุ่มคริปโตอย่าง Coinbase, Riot Platforms และ MARA Holdings ปรับตัวขึ้น ขณะที่ Fifth Third Bank ประกาศเข้าซื้อกิจการ Comerica ด้วยมูลค่า 10.9 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้หุ้น Comerica พุ่งขึ้นถึง 13.7%
ในตลาดโลหะมีค่า ราคาทองคำ (XAU/USD) ขยับขึ้นทำสถิติใหม่ต่อเนื่องเหนือระดับ 3,950 ดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของตลาดยุโรปวันจันทร์ โดยได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์ว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกสองครั้งภายในปีนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคาทองตลอดช่วงเจ็ดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ความกังวลต่อการปิดหน่วยงานรัฐที่ยืดเยื้อและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่การชนะเลือกตั้งของซานาเอะ ทะไคอิชิ ในตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP ของญี่ปุ่น เพิ่มโอกาสที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าและหนุนค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น แต่ไม่สามารถกดดันแรงซื้อทองคำได้
ตามเครื่องมือ CME FedWatch ความน่าจะเป็นที่ Fed จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนตุลาคมอยู่ที่ 95% และในเดือนธันวาคมที่ 83% ยิ่งตอกย้ำแนวโน้มขาขึ้นของทองคำ ขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐและการโจมตีทางอากาศของรัสเซียต่อยูเครนยังคงเป็นแรงหนุนสำคัญต่อการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
จากมุมมองทางเทคนิค การทะลุแนวต้าน 3,900 ดอลลาร์ในวันจันทร์ยืนยันแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้น แม้ RSI รายวันอยู่เหนือระดับ 70 ซึ่งบ่งชี้ภาวะซื้อมากเกินไป การย่อตัวในระยะสั้นอาจถูกมองเป็นจังหวะเข้าซื้อ โดยแนวรับอยู่บริเวณ 3,895–3,900 ดอลลาร์ และโซน 3,865–3,863 ดอลลาร์ใกล้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 ชั่วโมง
ตลาดการเงินโลกในสัปดาห์นี้สะท้อนภาพ “ความเชื่อมั่นที่สวนทางกับความไม่แน่นอน” นักลงทุนยังคงขับเคลื่อนการเก็งกำไรในหุ้นเทคโนโลยี โดยเฉพาะในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งกลายเป็นหัวใจสำคัญของแรงซื้อ แม้สหรัฐจะยังเผชิญภาวะรัฐบาลกลางปิดทำการยืดเยื้อและขาดข้อมูลเศรษฐกิจทางการที่ช่วยชี้นำทิศทางตลาด ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อของนักลงทุนว่าเทคโนโลยี AI ยังคงเป็น “ขาขึ้นระยะยาว” ที่ไม่ถูกขัดขวางจากปัจจัยการเมืองระยะสั้น
ในขณะเดียวกัน ตลาดทองคำกลับสะท้อนมุมมองอีกด้านหนึ่งของความระแวดระวัง การพุ่งขึ้นแตะระดับเหนือ 3,950 ดอลลาร์ไม่ใช่เพียงผลจากการคาดการณ์ว่า Fed จะลดดอกเบี้ยเท่านั้น แต่ยังเป็นภาพสะท้อนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่ความไม่แน่นอนทางการเมืองและภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ไปจนถึงความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
เมื่อมองในภาพรวม สถานการณ์ตลาดที่ทั้ง “เสี่ยงและหวัง” กำลังดำเนินควบคู่กันไป ฝั่งหนึ่งนักลงทุนไล่ซื้อหุ้นเทคโนโลยีเพื่อแสวงหาการเติบโต อีกฝั่งหนึ่งกลับป้องกันความเสี่ยงด้วยการถือทองคำในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ภาพนี้ตอกย้ำวัฏจักรของตลาดที่ยังคงอาศัยความคาดหวังเรื่องดอกเบี้ยเป็นเข็มทิศหลัก ซึ่งหาก Fed ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอย่างชัดเจนในปลายปีนี้ ตลาดอาจเห็นทั้ง “แรงเร่งในหุ้น” และ “ราคาทองคำที่ทดสอบจุดสูงสุดใหม่” พร้อมกันอีกครั้ง
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ