2025-09-08
คู่ EUR/USD ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยทำจุดสูงสุดใกล้ 1.1760 ก่อนปิดที่ 1.1719 ท่ามกลางการตอบสนองของตลาดต่อ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอกว่าคาด ในวันจันทร์ระหว่างช่วงการซื้อขายในเอเชีย คู่สกุลเงินยังรักษาการปรับตัวขึ้นไว้ได้ โดยเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง 1.1703–1.1719 สะท้อนถึงความระมัดระวังและความเชื่อมั่นแบบอ่อน ๆ ของนักเทรด
การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วนี้เกิดขึ้นท่ามกลาง ความคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดฐานในการประชุมวันที่ 17 กันยายน โดยมีบางส่วนของผู้เข้าร่วมตลาดเริ่มราคาปัจจัยการปรับลดเพิ่มเติมในเดือนตุลาคมแล้ว
1) ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ
รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของวันศุกร์สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนด้วยการเติบโตของการจ้างงานที่ติดลบ สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาด และกระตุ้นให้เกิดความคาดหวังว่าเฟดจะดำเนินการเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ
2) ความคาดหวังนโยบายของ Fed
นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเฟดจะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ซึ่งอาจส่งสัญญาณการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ปัจจัยนี้ช่วยหนุนค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนกำลังประเมินนโยบายการเงินที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง
3) ความรู้สึกของตลาด
แม้ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ จะอ่อนตัวลง แต่สถาบันการเงินยังคงระมัดระวังความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อในระยะกลาง การซื้อขายที่ขับเคลื่อนด้วยเรื่องเล่าและกระแสเงินทุนจากสถาบันขนาดใหญ่กำลังทำให้ความผันผวนของ EUR/USD ทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ราคาผันผวนอย่างรวดเร็ว
แนวรับและแนวต้าน:
1.170 0: เป็นแนวรับสำคัญทั้งด้านจิตวิทยาและเชิงเทคนิค การยืนเหนือระดับนี้ได้ อาจบ่งบอกถึงการก่อตัวของแนวโน้มขาขึ้นใหม่
1.1740–1.1750: เป็นโซนเป้าหมายระยะสั้น สำหรับนักลงทุนสถาบัน
1.1760: เป็นเป้าหมายขาขึ้นแบบก้าวร้าว สะท้อนแรงกดดันจากการเก็งกำไรระยะสั้น
แนวโน้มของกราฟแสดงให้เห็นว่าเมื่อ EUR/USD ยืนเหนือ 1.1700 แนวโน้มในการทำกำไรเพิ่มเติมอาจเพิ่มขึ้น แม้ว่าความผันผวนจะยังคงสูงอยู่ก็ตาม
1) ความท้าทายของยูโรโซน
เงินยูโรกำลังเผชิญกับอุปสรรคสำคัญหลายประการ ทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในเยอรมนี ความตึงเครียดทางการคลังในฝรั่งเศส และอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนที่สูงเกินความคาดหมายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อยู่ในสถานะที่เปราะบาง นั่นคือการสร้างสมดุลระหว่างความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ
2) ปฏิสัมพันธ์นโยบายระหว่าง Fed และ ECB
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดและการตัดสินใจด้านนโยบายของ ECB จะยังคงมีผลต่อ EUR/USD ต่อไป นักลงทุนกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ซับซ้อน ซึ่งการกระทำของธนาคารกลางทั้งสองประเทศมีนัยสำคัญต่อแนวโน้มของคู่เงินนี้
3) ระยะสั้น vs ระยะกลาง
ในระยะสั้น EUR/USD มีแนวโน้มที่จะทดสอบแนวรับและแนวต้านในกรอบแคบๆ ต่อไป ในระยะกลาง สัญญาณผ่อนคลายจากเฟดอาจช่วยหนุนค่าเงินยูโรให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตลาดยังคงมีความเสี่ยง
กรณีขาขึ้น:
หาก EUR/USD ทรงตัวที่ระดับ 1.1710 และมีโมเมนตัมขาขึ้น คู่เงินดังกล่าวอาจมุ่งเป้าไปที่ระดับ 1.1740–1.1750 ในการซื้อขายช่วงถัดไป โดย 1.1760 อาจเป็นเป้าหมายระยะยาว
กรณีขาลง:
หากหลุดต่ำกว่า 1.1700 อาจทำให้แนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นอ่อนแอลง ส่งผลให้ผู้ซื้อขายต้องประเมินสถานะใหม่และทดสอบระดับแนวรับที่ต่ำลง
EUR/USD ยังคงมีความอ่อนไหวอย่างมากต่อข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ และการคาดการณ์นโยบายของเฟด การทรงตัวเหนือ 1.1700 อาจเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ความเสี่ยงในยูโรโซนโดยรวมและการดำเนินการของธนาคารกลางจะยังคงมีอิทธิพลต่อความเชื่อมั่นของตลาด เทรดเดอร์ควรติดตามแนวรับและแนวต้านสำคัญอย่างใกล้ชิด ขณะที่กำลังเผชิญกับความผันผวนที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน
1. อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ EUR/USD พุ่งทะลุ 1.17?
การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอและความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นในการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งผลให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์
2. เหตุใด 1.1700 จึงถือเป็นระดับสำคัญ?
1.1700 ทำหน้าที่เป็นจุดสนับสนุนที่สำคัญ การทรงตัวเหนือจุดดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณของโมเมนตัมขาขึ้นอีกครั้ง
3. นโยบายของ Fed และ ECB ส่งผลต่อ EUR/USD อย่างไร?
ความแตกต่างในความคาดหวังอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และยูโรโซนส่งผลต่อการไหลเวียนของสกุลเงิน โดยสัญญาณของเฟดในเชิงผ่อนปรนโดยทั่วไปจะสนับสนุนยูโร
4. เป้าหมายระยะใกล้ของ EUR/USD คืออะไร?
เป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1.1740–1.1750 โดย 1.1760 ถือเป็นระดับขาขึ้นที่ท้าทายมากขึ้นหากโมเมนตัมขาขึ้นยังคงดำเนินต่อไป
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ