ราคาทองคำวันนี้ (Gold price) ถอยจากจุดสูงสุด 2 สัปดาห์ แต่ยังได้แรงหนุนจากความกังวลต่อ Fed จับตา PCE Inflation และกลยุทธ์ XAU/USD
ราคาทองคำ (Gold price) ในวันพุธถอยลงเล็กน้อยจากระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ที่ 3,395 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางแรงขายทำกำไรและการฟื้นตัวเล็กน้อยของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจช่วยพยุงราคาทองคำไม่ให้ร่วงแรง เนื่องจากนักลงทุนยังคงมองทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-Haven Asset)
ในบทความนี้ เราจะวิเคราะห์ทิศทางราคาทองคำ (XAU/USD) ทั้งในมุมมองเศรษฐกิจ สถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ รวมถึงปัจจัยทางเทคนิค เพื่อให้เทรดเดอร์และนักลงทุนเข้าใจภาพรวม และวางกลยุทธ์ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
ราคาทองคำปรับตัวลง ในช่วงการซื้อขายเอเชียเช้าวันพุธ หลังแตะระดับสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์
แรงขายทำกำไร (Profit-taking) และการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์เป็นแรงกดดันระยะสั้น
ความกังวลเรื่องความเป็นอิสระของ Fed ช่วยหนุนราคาทอง เนื่องจากตลาดมองว่าอาจมีความไม่แน่นอนทางการเงินเพิ่มขึ้น
รายงาน PCE ของสหรัฐฯ เดือนกรกฎาคม ที่จะประกาศในวันศุกร์ เป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนรอคอย
สถานการณ์ล่าสุดในสหรัฐฯ กลายเป็นจุดโฟกัสของตลาด เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้ากดดัน Fed โดยพยายามปลด Lisa Cook ผู้ว่าการเฟดออกจากตำแหน่ง พร้อมยืนยันว่าในไม่ช้าจะมี “เสียงส่วนใหญ่” ในคณะกรรมการเฟดที่สนับสนุนนโยบายลดดอกเบี้ย
แม้ Lisa Cook จะยืนยันว่า “ทรัมป์ไม่มีอำนาจปลดเธอออก” และพร้อมสู้ทางกฎหมาย แต่ความขัดแย้งนี้ได้สะท้อนถึงแรงกดดันทางการเมืองต่อ Fed ซึ่งอาจบั่นทอนความเชื่อมั่นในระบบการเงิน และทำให้นักลงทุนหันมาซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง
Bob Haberkorn นักกลยุทธ์ตลาดจาก RJO Futures กล่าวว่า “ข่าวที่ทรัมป์ปลดผู้ว่าการเฟดจากข้อหาทุจริตสินเชื่อ ทำให้ทองคำมีแรงหนุนเพิ่มขึ้น เพราะช่วงนี้ Fed เป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนราคาทอง”
ตัวเลข Personal Consumption Expenditures (PCE) Price Index ของสหรัฐฯ เดือนกรกฎาคม จะถูกประกาศในวันศุกร์ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า:
Headline PCE จะเพิ่มขึ้น 2.6% YoY
Core PCE จะเพิ่มขึ้น 2.9% YoY
หากตัวเลขออกมาร้อนแรงกว่าที่คาดการณ์ อาจทำให้ Fed ชะลอการปรับลดดอกเบี้ย ส่งผลกดดันราคาทองคำชั่วคราว แต่หากต่ำกว่าคาด ก็อาจเป็นแรงหนุนต่อราคาทองทันที
นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์ความขัดแย้งในยุโรปตะวันออกอย่างใกล้ชิด หากความตึงเครียดทวีความรุนแรงขึ้น ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจะได้แรงหนุนทันที ในทางกลับกัน หากมีความคืบหน้าเรื่องข้อตกลงสันติภาพ ก็อาจกดดันราคาทองลง
แม้ราคาทองคำ (XAU/USD) จะอ่อนตัวลง แต่แนวโน้มโดยรวมยังเป็น ขาขึ้น (Bullish Bias)
EMA 100 วัน: ราคายังยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยสำคัญ แสดงถึงโมเมนตัมเชิงบวก
RSI 14 วัน: อยู่ที่ 56.80 สูงกว่าระดับกลาง 50 แสดงถึงแรงซื้อยังคงมีอยู่
แนวต้านสำคัญ (Resistance Levels)
3,400 – 3,410 ดอลลาร์: แนวจิตวิทยา + ขอบบน Bollinger Band
3,439 ดอลลาร์: จุดสูงสุดวันที่ 23 ก.ค.
3,500 ดอลลาร์: ระดับกลม (Round Figure) + จุดสูงสุด 22 เม.ย.
แนวรับสำคัญ (Support Levels)
3,325 ดอลลาร์: จุดต่ำสุด 21 ส.ค.
3,200 ดอลลาร์: ขอบล่าง Bollinger Band
หากราคายืนเหนือ 3,400 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง มีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 3,439 – 3,500 ดอลลาร์ แต่หากร่วงต่ำกว่า 3,325 ดอลลาร์ อาจเปิดทางสู่ 3,200 ดอลลาร์
ตามข้อมูลจาก CME FedWatch Tool นักลงทุนกำลัง ให้ความเป็นไปได้ 85% ที่ Fed จะลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25% ในการประชุมเดือนกันยายน เพิ่มขึ้นจาก 75% ในสัปดาห์ก่อนหน้า
นั่นหมายความว่า ตลาดกำลัง “Priced in” การลดดอกเบี้ยค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำในภาพรวมระยะกลางถึงยาว
กลยุทธ์การลงทุนทองคำ (XAU/USD) ในช่วงนี้แตกต่างกันไปตามสไตล์ของนักลงทุน โดยสำหรับ นักลงทุนระยะสั้น (Short-term traders) ควรระมัดระวังแรงเหวี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการประกาศตัวเลข PCE Inflation ในวันศุกร์ หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนว 3,400 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง มีโอกาสเปิดสถานะซื้อ (Buy) โดยตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่โซน 3,439 – 3,500 ดอลลาร์
ส่วน นักลงทุนระยะกลางถึงยาว (Swing/Position traders) ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากราคายังเคลื่อนไหวเหนือเส้น EMA 100 วัน ซึ่งถือเป็นสัญญาณขาขึ้น กลยุทธ์ที่เหมาะสมคือการรอ “Buy on Dip” หรือเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงใกล้แนวรับ 3,325 ดอลลาร์ เพื่อสะสมกำไรในระยะยาว
ขณะที่ นักลงทุนสายระวังความเสี่ยง (Risk-off investors) ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ควรถือครองต่อไป ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ และสถานการณ์สงครามรัสเซีย–ยูเครน ซึ่งยังเป็นปัจจัยที่หนุนให้ราคาทองคำ (Gold Price) เคลื่อนไหวในเชิงบวกต่อเนื่อง
ราคาทองคำวันนี้ (Gold price) อ่อนตัวลงจากจุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ แต่ยังคงมีปัจจัยบวกจากความไม่แน่นอนของนโยบาย Fed และการเมืองในสหรัฐฯ รวมถึงสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โลก นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงมองว่า ทองคำอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ 3,439 – 3,500 ดอลลาร์ หากยืนเหนือระดับ 3,400 ได้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต้องติดตาม ตัวเลข PCE Inflation อย่างใกล้ชิด เพราะจะเป็นตัวแปรสำคัญที่กำหนดทิศทางทองคำในระยะสั้น หากออกมาสูงกว่าคาด อาจกดดันทองคำให้ปรับฐานลงได้
สำหรับผู้ที่ลงทุนในทองคำ (XAU/USD) การวางกลยุทธ์อย่างรอบคอบ และการบริหารความเสี่ยง ถือเป็นกุญแจสำคัญในช่วงตลาดที่ผันผวนเช่นนี้
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
ติดตามแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และอุปสงค์-อุปทานทั่วโลกสร้างความผันผวนและสร้างโอกาสทางการตลาด
2025-08-27สัญญาซื้อขายล่วงหน้าหุ้นสหรัฐฯ วันนี้ต้องระวัง เนื่องจากหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่พุ่งขึ้นมากกว่าหุ้นที่หลากหลาย ชิปแข็งแกร่ง หุ้นขนาดเล็กชะลอตัว และความเสี่ยงด้านนโยบายยังคงอยู่หลังจากสัปดาห์ที่ผันผวน
2025-08-27ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงในวันพุธ เนื่องจากปูตินไม่สนใจข้อตกลงหยุดยิง ยูเครนยืนยันว่ารัสเซียเข้าสู่เขตอุตสาหกรรมทางตะวันออกของเมืองดนีปรอเปตรอฟสค์
2025-08-27