15 ประเทศที่สกุลเงินอินเดียมีมูลค่าสูงที่สุด

สกุลเงินอินเดีย (รูปี: INR) มักถูกมองว่ามีค่าต่ำเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักของโลก เช่น ดอลลาร์สหรัฐฯ และยูโร อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายประเทศที่สกุลเงินอินเดียมีมูลค่าสูงกว่า ซึ่งเปิดโอกาสให้นักเทรดและนักลงทุนสามารถใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นในการลงทุนต่างประเทศ

บทความนี้จะพาคุณสำรวจ 15 ประเทศที่สกุลเงินอินเดียถือว่ามีความแข็งแกร่ง วิเคราะห์ว่ารูปีทำผลงานอย่างไรเมื่อจับคู่กับสกุลเงินเหล่านั้น ปัจจัยใดบ้างที่ทำให้รูปีแข็งค่า และวิธีสร้างกลยุทธ์การเทรด Forex โดยใช้โอกาสจากตลาดเกิดใหม่หรือคู่สกุลเงินที่ไม่ธรรมดาเหล่านี้

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับมูลค่าสกุลเงิน: ปัจจัยที่ทำให้สกุลเงินอินเดียแข็งค่าหรืออ่อนค่า

ความแข็งแกร่งของสกุลเงินนั้นเป็นเรื่องที่ต้องเปรียบเทียบกันไป เงินรูปีอาจจะแข็งแกร่งกว่าสกุลเงินของหลายประเทศกำลังพัฒนา แต่ก็ยังอ่อนกว่าสกุลเงินอย่างปอนด์อังกฤษ ซึ่งความแข็งแกร่งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น

• อัตราแลกเปลี่ยนเทียบกับรูปีอินเดีย

• ค่าครองชีพในแต่ละประเทศ

• อัตราเงินเฟ้อ

• ความมั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจ

• ความต้องการใช้สกุลเงินต่างประเทศ เช่น ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือยูโร

ในตลาด Forex ความแข็งแกร่งของสกุลเงินหมายถึงว่าหนึ่งหน่วยของสกุลเงินนั้นสามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสกุลอื่นได้มากแค่ไหน เมื่อเราพูดว่ารูปี “แข็งค่า” ในบางประเทศ แปลว่า 1 รูปีมีมูลค่าสูงกว่าสกุลเงินท้องถิ่นของประเทศนั้น

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่าเงินรูปีจะแข็งแกร่งไปทุกที่ แต่เมื่อเทียบกับสกุลเงินที่อ่อนค่าหรือมีแนวโน้มเงินเฟ้อสูง รูปีก็ยังสามารถเป็นตัวเลือกที่ได้เปรียบสำหรับการเทรดหรือการลงทุนได้อย่างมากทีเดียว

15 ประเทศที่สกุลเงินอินเดียมีมูลค่าสูงกว่าสกุลเงินท้องถิ่น

1. เวียดนาม - ดองเวียดนาม (VND)

• 1 INR ≈ 300–310 VND

ดองเวียดนามมีมูลค่าต่ำมากจากภาวะเงินเฟ้อสะสม การพึ่งพาการส่งออก และการควบคุมด้านการเงินโดยรัฐบาล

แม้เศรษฐกิจจะเติบโต แต่หน่วยเงินที่สูงมากยังทำให้รูปีดูแข็งแกร่งกว่าอย่างเห็นได้ชัด

2.อินโดนีเซีย – รูเปียห์อินโดนีเซีย (IDR)

• 1 INR ≈ 170-190 IDR

รูเปียห์ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อเรื้อรังและการลดค่าเงินซ้ำซาก

แม้จะมีการปฏิรูปเศรษฐกิจ แต่รูปีที่ได้รับแรงหนุนจากภาคเทคโนโลยีและบริการยังคงมีมูลค่าสูงกว่า

3. กัมพูชา – เรียลกัมพูชา (KHR)

• 1 INR ≈ 45-47 KHR

เรียลกัมพูชามีการใช้ในประเทศไม่มากนัก เนื่องจากธุรกรรมส่วนใหญ่ยังคงใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ

ความต้องการที่ต่ำและการค้าระหว่างประเทศที่น้อยส่งผลให้มูลค่าของสกุลเงินนี้ลดลง ทำให้ INR สามารถรักษาสถานะที่แข็งแกร่งกว่าในอัตราแลกเปลี่ยนได้

4. ศรีลังกา – รูปีศรีลังกา (LKR)

• 1  INR ≈ 3.3–3.6 LKR

ศรีลังกาเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองในปี 2022 ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินรูปีศรีลังกาล่มสลายลงอย่างหนัก

อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงและการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจตามแนวทางของ IMF ทำให้ค่าเงินยิ่งอ่อนตัวลง ส่งผลให้รูปีแข็งแกร่งกว่าในเชิงเปรียบเทียบ

5. เนปาล – รูปีเนปาล (NPR)

• 1 INR ≈1.58-1.61 NPR

เนปาลเชื่อมโยงสกุลเงินของตนกับรูปีด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่กำหนด ซึ่งช่วยรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ขณะเดียวกันก็ตระหนักถึงความแข็งแกร่งของเงินรูปีด้วย

เศรษฐกิจอินเดียมีขนาดใหญ่ มีปริมาณการค้าและการเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกในระดับสูง ทำให้รูปีมีมูลค่าสูงกว่าโดยธรรมชาติ

6. ปารากวัย – กวารานีปารากวัย (PYG)

• 1 INR≈ 89-93 PYG

ค่าเงินกวารานีของปารากวัยมีความต้องการในระดับสากลค่อนข้างต่ำ และมีการลงทุนจากต่างประเทศอย่างจำกัด

เมื่อรวมกับแรงกดดันจากเงินเฟ้อ และการพึ่งพาการส่งออกสินค้าเกษตรเพียงไม่กี่ชนิด ทำให้ค่าเงินอ่อนตัวลง ส่งผลให้รูปีมีมูลค่าสูงกว่าอย่างชัดเจน

7. ลาว – ลาวกีบ (LAK)

• 1 INR ≈ 246-250 LAK

กีบลาวถูกลดค่าหลายครั้งจากภาวะเงินเฟ้อเรื้อรัง ทุนสำรองระหว่างประเทศต่ำ และเศรษฐกิจที่ค่อนข้างโดดเดี่ยวจากโลกภายนอก

ความสามารถในการแลกเปลี่ยนจำกัด และปริมาณการค้ากับอินเดียที่ไม่สูงนัก ทำให้รูปียังคงแข็งแกร่งกว่าในอัตราแลกเปลี่ยน

8. ซิมบับเว – ดอลลาร์ซิมบับเว (ZWL)

• 1 INR ≈ หลายพัน ZWL (เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา)

ประวัติศาสตร์ทางการเงินของซิมบับเวเต็มไปด้วยวิกฤตเงินเฟ้อขั้นรุนแรง และการเปลี่ยนแปลงค่าเงินอย่างต่อเนื่อง

ดอลลาร์ซิมบับเวแทบจะไม่มีมูลค่าการใช้งานจริง ประชาชนส่วนใหญ่หันไปใช้ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือแรนด์แอฟริกาใต้ในการทำธุรกรรมแทน เมื่อเทียบกับสภาวะที่ไม่มั่นคงเช่นนี้ รูปีจึงดูแข็งแกร่งและมีเสถียรมากกว่าชัดเจน

9. อุซเบกิสถาน – ซอมอุซเบกิสถาน (UZS)

• 1 INR ≈ 144-147 UZS

แม้อุซเบกิสถานจะมีความพยายามเปิดเศรษฐกิจมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่สกุลเงินซอมยังคงอ่อนค่า เนื่องจากเงินเฟ้อสูง การลดค่าเงินในอดีต และการมีส่วนร่วมกับตลาดการเงินโลกที่ยังจำกัด เส้นทางเศรษฐกิจของอินเดียที่มีเสถียรกว่าทำให้รูปีมีความแข็งแกร่งมากกว่า

10. มองโกเลีย – ทูกริกมองโกเลีย (MNT)

• 1 INR ≈ 40-42 MNT

ทูกริกของมองโกเลียได้รับผลกระทบจากการพึ่งพาการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ และความผันผวนของอุปสงค์จากจีนซึ่งเป็นคู่ค้าหลัก

รายได้จากการส่งออกที่ไม่แน่นอน ส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อและค่าเงินอ่อนตัวอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้รูปีดูแข็งแกร่งกว่า

11. ปากีสถาน – รูปีปากีสถาน (PKR)

• 1 INR ≈ 3.30 PKR

เศรษฐกิจปากีสถานเผชิญกับปัญหาซ้ำซาก ทั้งวิกฤตดุลการชำระเงิน เงินเฟ้อ และการอ่อนค่าของค่าเงิน อันเกิดจากการพึ่งพาการนำเข้าและเงินกู้จากต่างประเทศ

แม้รูปีจะไม่ใช่สกุลเงินที่แข็งแกร่งระดับโลก แต่ก็มีเสถียรภาพและมูลค่าที่มั่นคงมากกว่าค่าเงินของปากีสถาน

12. แทนซาเนีย – ชิลลิงแทนซาเนีย (TZS)

• 1 INR ≈ 29-31 TZS

ชิลลิงของแทนซาเนียกำลังเผชิญแรงกดดันจากเงินเฟ้อสูง และเศรษฐกิจที่พึ่งพาภาคเกษตรและการท่องเที่ยวเป็นหลัก

การพัฒนาอุตสาหกรรมที่ยังจำกัด รวมถึงความเปราะบางต่อแรงกระแทกภายนอก ทำให้ค่าเงินอ่อนตัวลง ขณะที่เศรษฐกิจที่หลากหลายของอินเดียสนับสนุนให้รูปีแข็งค่ากว่าในภาพรวม

13. ชิลี – เปโซชิลี (CLP)

• 1 INR ≈ 10.60-11 CLP

แม้เศรษฐกิจของชิลีจะมีเสถียรมากกว่าหลายประเทศในรายการนี้ แต่ค่าเงินเปโซยังคงผันผวนตามราคาทองแดงในตลาดโลก ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของประเทศ

เมื่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตกต่ำ หรือเมื่อค่าเงินของประเทศในละตินอเมริกาอ่อนค่าจากภาวะเงินเฟ้อหรือการเมืองไม่มั่นคง รูปีจะได้เปรียบในแง่มูลค่า

14. คอสตาริกา – โคลอนคอสตาริกา (CRC)

• 1 INR ≈ 5.6-5.8 CRC

โคลอนของคอสตาริกาเผชิญภาวะเงินเฟ้อและการอ่อนค่าค่าเงินต่อเนื่อง สาเหตุหลักมาจากปัญหาขาดดุลงบประมาณของรัฐ

รูปียังคงมีมูลค่าที่มั่นคงและแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเศรษฐกิจอินเดียในตลาดเงินตราต่างประเทศ

15. ฮังการี – โฟรินต์ฮังการี (HUF)

• 1 INR ≈ 3.9-4.2 HUF

ค่าเงินโฟรินต์ฮังการีลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อ ความตึงเครียดกับสหภาพยุโรป และการพึ่งพาเงินทุนจากภายนอก

แม้จะไม่อ่อนค่ารุนแรงเท่าบางประเทศในรายการนี้ แต่รูปียังคงมีอำนาจในการซื้อที่มากกว่าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อฮังการียังประสบกับภาวะเงินเฟ้อสูงอย่างต่อเนื่อง

สรุป

แม้ว่าสกุลเงินอินเดียอาจไม่ใช่สกุลเงินที่แข็งแกร่งในระดับโลก แต่ก็ยังมีสถานะที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินของหลายประเทศในตลาด Forex โดยเฉพาะในประเทศที่เผชิญกับเงินเฟ้อสูง ความไม่มั่นคงทางการเมือง หรือการเติบโตทางเศรษฐกิจที่จำกัด ซึ่งล้วนเปิดโอกาสให้นักเทรดที่มีประสบการณ์สามารถใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งของรูปีได้

หากเลือกคู่สกุลเงินที่เหมาะสมและใช้กลยุทธ์การเทรดที่ถูกต้อง การเทรดที่อิงกับรูปีอินเดียสามารถสร้างความหลากหลายในพอร์ต เพิ่มความผันผวนที่เอื้อต่อการทำกำไร และเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่เข้าใจตลาดเกิดใหม่อย่างลึกซึ้ง

คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ