เทรดทอง XAUUSD เมื่อพุ่งแตะ $3,300 รับดอลลาร์อ่อน

ในโลกของการลงทุนยุคใหม่ หนึ่งในสินทรัพย์ที่ยังคงได้รับความนิยมสูงอย่างต่อเนื่องคือ “ทองคำ” โดยเฉพาะในรูปแบบการเทรดผ่านคู่สกุลเงิน XAUUSD ซึ่งเป็นการซื้อขายทองคำเปรียบเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ การเทรดทอง XAUUSD จึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่นักลงทุนทั้งรายใหญ่และรายย่อยเลือกใช้ในการบริหารพอร์ตการลงทุน เนื่องจากทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ที่มักจะได้รับความสนใจในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนหรือเผชิญกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์

ในช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำ (XAUUSD) มีแนวโน้มที่น่าสนใจอย่างมาก โดยล่าสุดสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ระดับ $3,300 ได้อีกครั้ง ท่ามกลางความอ่อนแอของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ การคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และความขัดแย้งระหว่างประเทศที่ยังไม่คลี่คลาย ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนสู่ทองคำอย่างต่อเนื่อง ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกแนวโน้มราคาทองคำล่าสุด วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและเทคนิคที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหว พร้อมแนวทางในการวางกลยุทธ์เทรดทอง XAUUSD อย่างมีประสิทธิภาพในสภาวะตลาดปัจจุบัน

ทำความเข้าใจ XAUUSD คืออะไร?

ก่อนจะเจาะลึกแนวโน้มราคาและโอกาสในการลงทุน มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า XAUUSD หมายถึงอะไร

XAU คือสัญลักษณ์ของทองคำในตลาดการเงินโลก ขณะที่ USD คือดอลลาร์สหรัฐ เมื่อรวมกัน XAUUSD จึงหมายถึงการซื้อขายราคาทองคำเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หรือเรียกง่ายๆ ว่า “ราคาทองในหน่วยดอลลาร์” ซึ่งเป็นเครื่องมือยอดนิยมในการเก็งกำไรของนักเทรดทั่วโลก เนื่องจากมีสภาพคล่องสูงและมีความผันผวนให้ทำกำไรได้ตลอดเวลา

ราคาทองคำทะลุ $3,300: ปัจจัยหลักที่ผลักดัน

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำขยับขึ้นอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยสามารถพุ่งทะลุแนวต้านสำคัญที่ระดับ $3,300 ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดในรอบ 8 วัน โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำมีหลายประการ ได้แก่:

1. ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า

หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือความอ่อนแอของ USD อันเกิดจากความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ทั้งจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจลดอัตราดอกเบี้ยลงสองครั้งภายในสิ้นปีนี้ และจากการที่ Moody’s ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เนื่องจากนโยบายลดภาษีขนาดใหญ่ที่อาจทำให้เกิดภาระหนี้สาธารณะสูงขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง และราคาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ซื้อขายใน USD จึงมีราคาสูงขึ้นตาม

2. ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์

สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน รวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ยังคงกดดันตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อมีรายงานข่าวว่าอิสราเอลอาจเตรียมโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนมีความเสี่ยงสูงขึ้น และนักลงทุนหันมาหลบภัยในทองคำ

3. ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอ

ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ระบุว่า ยอดขายปลีกทรงตัว และอัตราเงินเฟ้อลดลงจาก 3.5% เหลือ 3.4% ในเดือนเมษายน นอกจากนี้ยังมีสัญญาณอ่อนตัวจากตลาดแรงงาน ซึ่งเพิ่มโอกาสที่ Fed จะดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ทำให้ทองคำที่ไม่มีอัตราดอกเบี้ยกลับมาเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง

วิเคราะห์ทางเทคนิค: เทรดทอง XAUUSD ยังมีแรงหนุนขาขึ้น

จากมุมมองทางเทคนิค ทองคำ (XAUUSD) ได้เบรกกรอบการเคลื่อนไหวระหว่างเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 21 วัน (SMA 21) และ 50 วัน (SMA 50) ขึ้นมาได้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีค่า RSI 14 วันฟื้นตัวกลับขึ้นเหนือระดับกลาง 50 แสดงถึงแรงซื้อที่กลับมาอีกครั้ง

แนวรับและแนวต้านสำคัญที่ต้องจับตา

-แนวรับ ที่น่าจับตามองคือบริเวณ $3,289 ซึ่งตรงกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 21 วัน หากราคาสามารถปิดรายวันเหนือแนวนี้ได้อย่างมั่นคง จะเป็นการยืนยันแนวโน้มขาขึ้นต่อไป

-แนวต้าน ถัดไปอยู่ที่ $3,347 ซึ่งเป็นแนวต้านทางจิตวิทยาและแนวต้านจากเส้นเทรนด์ไลน์ หากสามารถผ่านได้ มีโอกาสทดสอบระดับ $3,400

หากราคาย่อลงต่ำกว่าแนวรับแรกที่ $3,289 แนวรับถัดไปคือ $3,271 และต่ำสุดคือ $3,165 ซึ่งเป็นระดับ Fibonacci Retracement 61.8% ของการปรับตัวขึ้นในเดือนเมษายน

กลยุทธ์การเทรดทอง XAUUSD ในภาวะตลาด 2025

สำหรับนักลงทุนที่กำลังพิจารณาเข้าสู่ตลาดทองคำหรือมีสถานะการเทรดทอง XAUUSD อยู่แล้ว การมีแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจนถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในภาวะที่ตลาดมีความผันผวนสูงในปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อราคาทองคำยังคงแสดงแนวโน้มขาขึ้นและเกาะอยู่เหนือระดับ $3,300 ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญ นักลงทุนควรใช้ความระมัดระวังในการเปิดสถานะ และเลือกจังหวะในการเทรดอย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

หนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมในช่วงขาขึ้นคือ “Buy on Dip” หรือการรอจังหวะที่ราคาทองคำย่อตัวลงมาที่แนวรับ ก่อนจะเปิดสถานะซื้อเมื่อมีสัญญาณกลับตัว โดยแนวรับที่น่าจับตาในตอนนี้ ได้แก่ บริเวณ $3,289 และ $3,271 ซึ่งเป็นจุดที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามา หากราคาย่อลงมาทดสอบในระดับเหล่านี้และเกิดแท่งเทียนกลับตัว (Bullish Reversal) หรือมีสัญญาณสนับสนุนจากอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคอย่าง RSI หรือ MACD ก็อาจเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น

นอกจากนี้ สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือการวางจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) อย่างชัดเจนในทุกการเปิดสถานะ เพราะการเทรดทอง XAUUSD มักมีความผันผวนสูง หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดหรือแนวโน้มราคากลับตัวลง นักลงทุนจะสามารถจำกัดความเสียหายได้ทันเวลา ตัวอย่างเช่น หากเปิดสถานะซื้อที่ระดับ $3,289 อาจวาง Stop Loss ไว้ที่ $3,250 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าแนวรับสำคัญและเป็นจุดที่เทรดเดอร์จำนวนมากใช้เพื่อป้องกันพอร์ตของตน

อีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้เทรดทอง XAUUSD จำเป็นต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือ ข่าวสารเศรษฐกิจและสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อราคาทองคำ ไม่ว่าจะเป็นการแถลงการณ์จากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ตัวเลขเงินเฟ้อ การจ้างงาน หรือความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีน หรือข่าวเกี่ยวกับอิหร่านและยูเครน เหตุการณ์เหล่านี้สามารถกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวของราคาทองอย่างรวดเร็ว นักลงทุนจึงควรตรวจสอบข้อมูลจากปฏิทินเศรษฐกิจ และแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้อยู่เสมอ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลสนับสนุน

สรุปแล้วการเทรดทอง XAUUSD ยังคงน่าสนใจในปี 2025 เนื่องจากราคาทองคำที่กลับมายืนเหนือระดับ $3,300 ได้ในปีนี้ เป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังมีความกังวลอย่างมากต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ ท่ามกลางความไม่แน่นอนนี้ การ เทรดทอง XAUUSD จึงกลายเป็นทางเลือกที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม

ทั้งในเชิงเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน ราคาทองยังคงมีโอกาสปรับขึ้นต่อ โดยมีเป้าหมายระยะสั้นที่ $3,347 และอาจทะลุ $3,400 หากปัจจัยหนุนยังดำเนินต่อไป อย่างไรก็ตาม นักเทรดควรใช้กลยุทธ์ที่รอบคอบ บริหารความเสี่ยงให้ดี และติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่พลาดจังหวะการทำกำไรในตลาดทองคำที่กำลังร้อนแรงเช่นนี้

คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ