เผยแพร่เมื่อ: 2025-04-23 อัปเดตเมื่อ: 2025-10-20
 
              
              
              
ในปี 2025 ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven Asset) ที่ได้รับการยอมรับในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจาก เงินเฟ้อ ความผันผวนของตลาด และ การอ่อนค่าของสกุลเงิน
เมื่อความไม่แน่นอนระดับโลกยังคงดำเนินต่อไป และราคาทองคำพุ่งทะลุ 4,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในปี 2025 ความต้องการลงทุนใน ETF ทองคำ จึงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ETF ทองคำ เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำโดยตรง โดยไม่ต้องรับภาระในการถือครองหรือจัดเก็บทองคำแท่งจริง นอกจากนี้ ยังมีสภาพคล่องสูง โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับทั้งนักลงทุนสถาบันและรายย่อยที่ต้องการกระจายพอร์ตการลงทุนเชิงป้องกัน (Defensive Allocation)
 ราคาทองคำสปอตในปี 2025 ถือเป็นเกณฑ์มาตรฐานในการประเมินมูลค่าของ ETF ทองคำ และสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์ของอุปสงค์ อุปทาน และความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก
ราคาทองคำสปอตในปี 2025 ถือเป็นเกณฑ์มาตรฐานในการประเมินมูลค่าของ ETF ทองคำ และสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์ของอุปสงค์ อุปทาน และความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก
มีหลายปัจจัยที่ตอกย้ำให้ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์สำคัญที่ควรลงทุนในปีนี้ ได้แก่
ราคาทองคำทำลายสถิติ: ทองคำพุ่งทะลุระดับ 4,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำสถิติสูงสุดตลอดกาล จากความคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ยและความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย
ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีแข็งแกร่ง: ราคาทองคำปรับขึ้นมากกว่า 50% ตั้งแต่ต้นปี จากแรงกดดันเศรษฐกิจมหภาคและกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าทองคำ
ความผันผวนของตลาดหุ้น: เมื่อตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ภายใต้แรงกดดัน นักลงทุนจำนวนมากจึงหันมาลงทุนใน ETF ทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง
ความต้องการจากธนาคารกลาง: ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงซื้อลงทุนในทองคำต่อเนื่อง เสริมความมั่นใจและความน่าเชื่อถือในฐานะสินทรัพย์สำรอง
ตั้งแต่กองทุนทองคำต้นทุนต่ำที่ถือทองคำจริง ไปจนถึง ETF เหมืองทองคำที่มีศักยภาพสูง รายชื่อต่อไปนี้คือ ETF ทองคำที่โดดเด่นที่สุดในปี 2025
| ETF | ผลตอบแทนโดยประมาณปี 2025 | อัตราค่าบริหาร (Expense Ratio) | จุดเด่น / หมายเหตุ | 
| Franklin Responsibly Sourced Gold ETF (FGDL) | ~44% | 0.15% | ได้รับการจัดอันดับให้เป็นกองทุนที่ทำผลงานดีที่สุดในรีวิวล่าสุด | 
| iShares Gold Trust Micro (IAUM) | ~43–48% | 0.09% | ค่าธรรมเนียมต่ำที่สุด พร้อมผลตอบแทนที่แข็งแกร่ง | 
| Goldman Sachs Physical Gold ETF (AAAU) | ~43–44% | 0.18% | ถือทองคำจริงโดยตรง มีข้อมูลโปร่งใส | 
| GraniteShares Gold Shares (BAR) | ~43–44% | 0.17% | สภาพคล่องสูง โครงสร้างโปร่งใส | 
| VanEck Gold Miners ETF (GDX) | 30–35%+ | 0.51% | หุ้นเหมืองทองคำให้ผลตอบแทนสูงกว่าทองคำแท่งในปี 2025 | 
| SPDR Gold Shares (GLD) | ~13–16% (YTD) | 0.40% | ยังคงเป็นหนึ่งใน ETF ทองคำที่มีสภาพคล่องสูงที่สุด | 
| iShares Gold Trust (IAU) | ~13–16% (YTD) | 0.25% | ค่าธรรมเนียมต่ำกว่า GLD เหมาะกับการถือครองระยะยาว | 
| Axis Gold ETF (India) | ~25–28% | (ต่างกันตามตลาด) | ตลาดอินเดียแข็งแกร่งในช่วงกลางปี 2025 | 
| ICICI Prudential Gold ETF (India) | ~25–32% | (ต่างกันตามตลาด) | มีผลงานสม่ำเสมอในตลาดทองคำอินเดีย | 
อัตราค่าใช้จ่าย: ETF ที่มีอัตราค่าบริหารต่ำจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนสุทธิ
สภาพคล่อง: ETF ขนาดใหญ่ เช่น GLD และ IAU ซื้อขายง่ายและมีส่วนต่างราคาต่ำ
ลักษณะการลงทุน: เลือกระหว่าง ETF ที่ถือทองคำจริง หรือ ETF เหมืองทองคำ เช่น GDX
การกระจายความเสี่ยง: การลงทุนใน ETF ทองคำของอินเดียช่วยเพิ่มการกระจายความเสี่ยงระดับโลก
ความโปร่งใส: ตรวจสอบข้อมูลการจัดเก็บทองคำ แหล่งที่มา และระบบควบคุมดูแลของกองทุนอย่างละเอียด
 แม้ว่า ETF ทองคำจะเป็นทางเลือกการลงทุนที่สะดวกและมีประสิทธิภาพ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะ “ไม่มีต้นทุน”
แม้ว่า ETF ทองคำจะเป็นทางเลือกการลงทุนที่สะดวกและมีประสิทธิภาพ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะ “ไม่มีต้นทุน”
1. อัตราค่าบริหาร (Expense Ratio)
ETF ทองคำจะมีค่าบริหารรายปีเล็กน้อย ซึ่งถูกหักออกจากผลตอบแทนเพื่อครอบคลุมค่าบริหารจัดการและค่าจัดเก็บทองคำจริง แม้ค่าธรรมเนียมเพียง 0.40% ต่อปีดูเหมือนน้อย แต่เมื่อสะสมหลายปีอาจกัดกินผลตอบแทนรวมได้มากเมื่อเทียบกับกองทุนที่มีต้นทุนต่ำกว่า
2. ส่วนต่างราคาซื้อ–ขาย (Bid-Ask Spread)
อีกหนึ่งปัจจัยที่มักถูกมองข้ามคือส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขายในตลาด ส่วนต่างที่กว้างหมายถึงต้นทุนการเทรดที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ ETF ที่มีสภาพคล่องต่ำ
3. ความคลาดเคลื่อนของผลการติดตามราคา (Tracking Error)
Tracking Error คือความแตกต่างระหว่างผลตอบแทนของ ETF กับราคาทองคำจริง ซึ่งอาจเกิดจากค่าบริหารจัดการหรือการจำลองราคาที่ไม่สมบูรณ์ หากไม่ระวัง ความคลาดเคลื่อนนี้อาจทำให้ผลตอบแทนไม่ตรงตามที่คาดหวัง
สำหรับนักลงทุนที่จริงจัง ความแตกต่างเพียงเล็กน้อยเหล่านี้มีความสำคัญ การเลือก ETF ทองคำที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ สเปรดแคบ และสภาพคล่องสูง จะช่วยให้การลงทุนในทองคำของคุณมีประสิทธิภาพและสะอาดที่สุด ทั้งในแง่ต้นทุนและผลตอบแทน

การลงทุนทองคำกำลังพัฒนาไปไกลกว่ารูปแบบดั้งเดิมอย่าง ETF ทองคำ แพลตฟอร์มดิจิทัลสมัยใหม่เริ่มนำเสนอ “ทองคำแบบโทเคน (Tokenized Gold)” ซึ่งแต่ละโทเคนแสดงถึงการถือครองทองคำแท่งจริงที่ถูกเก็บรักษาไว้ในตู้นิรภัย และสามารถซื้อขายได้แบบเรียลไทม์บนโลกออนไลน์
รูปแบบใหม่นี้ช่วยเชื่อมโยงระหว่างทองคำจริงกับการเงินดิจิทัล ทำให้การลงทุนในทองคำมีสภาพคล่องสูงขึ้น เข้าถึงง่ายขึ้น และเหมาะกับนักลงทุนรายย่อยมากขึ้น
อีกหนึ่งแนวโน้มสำคัญคือการถือครองแบบเศษส่วน (Fractional Ownership) ซึ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถซื้อทองคำในปริมาณเล็กน้อยได้ โดยไม่จำเป็นต้องซื้อเป็นแท่งหรือเหรียญเต็มหน่วย
เมื่อผสานกับเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ที่ช่วยตรวจสอบความถูกต้องและบันทึกการถือครองอย่างโปร่งใส นวัตกรรมเหล่านี้กำลังเปลี่ยนโฉมการลงทุนทองคำให้รวดเร็ว ปลอดภัย และเข้าถึงได้ทั่วโลก นับเป็นก้าวต่อไปของวิธีที่นักลงทุนยุคใหม่จะถือครองและซื้อขายทองคำในอนาคต
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้น EBC มีทางเลือกการเทรด Gold CFD และ Gold ETF CFD ซึ่งเปิดโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำหรือกองทุนทองคำ โดยไม่ต้องถือครองสินทรัพย์จริง
Gold CFD: ติดตามราคาทองคำแบบเรียลไทม์ พร้อมเทรดด้วยเลเวอเรจ เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น
Gold ETF CFD: เข้าถึงกองทุนทองคำที่ทำผลงานดีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บรักษาทองคำจริง
ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถใช้เสริมพอร์ตการลงทุน ETF แบบดั้งเดิม เพื่อเพิ่มโอกาสในการเทรดและสร้างกลยุทธ์ระยะสั้น เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความคล่องตัวและการบริหารความเสี่ยงเชิงรุก
1. ETF ทองคำยังน่าลงทุนในปี 2025 หรือไม่?
น่าลงทุนอย่างแน่นอน ด้วยราคาทองคำที่ซื้อขายสูงกว่า 4,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในปี 2025 และตลาดหุ้นทั่วโลกที่เผชิญแรงกดดัน ETF ทองคำยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพที่สุด จากภาวะเงินเฟ้อ ความผันผวนของตลาด และการอ่อนค่าของสกุลเงิน
2. ความแตกต่างระหว่าง ETF ทองคำ กับ ETF เหมืองทองคำ คืออะไร?
ETF ทองคำ ติดตามราคาทองคำแท่งจริง (Physical Bullion) โดยตรง
ETF เหมืองทองคำ ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ทำเหมืองทองคำ
ETF เหมืองทองคำมักให้ผลตอบแทนสูงกว่าเมื่อราคาทองคำปรับขึ้น แต่ก็มีความผันผวนมากกว่าเช่นกัน
3. ควรจัดสรรเงินลงทุนใน ETF ทองคำกี่เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต?
นักวิเคราะห์ทางการเงินส่วนใหญ่แนะนำให้ถือ ETF ทองคำประมาณ 5–10% ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงและสร้างสมดุลระหว่างสินทรัพย์เติบโตกับสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง
4. ETF ทองคำปลอดภัยหรือไม่?
ETF ทองคำเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล และมีการถือครองทองคำจริงหรือหุ้นที่เกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลัง จึงมีระบบการเก็บรักษาที่ปลอดภัย โปร่งใส และสามารถซื้อขายได้ทุกวัน ปลอดภัยกว่าการเก็บทองคำจริงด้วยตัวเอง
ETF ทองคำยังคงเป็นทางเลือกการลงทุนที่ปลอดภัยและสร้างผลตอบแทนได้ดี สำหรับผู้ที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
กองทุนชั้นนำอย่าง FGDL, IAUM, AAAU, BAR และ GDX ยังคงติดอันดับ ETF ทองคำที่เหมาะที่สุดสำหรับพอร์ตการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง
ไม่ว่าคุณจะชอบการลงทุนที่อิงราคาทองคำโดยตรง หรือการเก็งกำไรผ่านหุ้นเหมืองทองคำ ETF ทองคำในปัจจุบันมอบความยืดหยุ่นที่สามารถตอบโจทย์ทุกกลยุทธ์การลงทุน ทั้งแบบป้องกันความเสี่ยงหรือเน้นการเติบโต
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
 
                     
                     
                     
                     
                      
                      