简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

รู้หรือไม่ เลเวอเรจ 1:100 คืออาวุธลับที่เทรดเดอร์มือโปรใช้ทำกำไร!

เผยแพร่เมื่อ: 2025-10-22

เลเวอเรจ 1:100 คือเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้เงินทุนเล็กน้อยสามารถควบคุมตำแหน่งใหญ่ในตลาด Forex ได้ถึง 100 เท่า ผู้ลงทุนจึงสามารถใช้โอกาสจากความเคลื่อนไหวของราคาที่แม้เพียงไม่กี่ pip ให้เกิดประโยชน์สูงสุด บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจว่าเลเวอเรจ 1:100 คืออะไร ทำงานอย่างไร มีตัวอย่างการใช้จริงในสถานการณ์เทรด และวิธีคำนวณสูตรเลเวอเรจด้วยตัวเอง เพื่อให้เห็นทั้งศักยภาพและความเสี่ยงอย่างครบถ้วน


เลเวอเรจ 1:100 คือเครื่องมือเสริมที่ช่วยให้เทรดอย่างทรงพลัง


เลเวอเรจ 1:100 คือ อัตราส่วนทางการเงินที่ทำให้เงินทุนเพียงเล็กน้อยสามารถเปิดออเดอร์ในตลาด Forex ได้สูงถึง 100 เท่า ทำให้เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถเพิ่มศักยภาพการเทรดได้โดยไม่ต้องใช้เงินทุนมหาศาล ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเราจะ “ได้เงินเพิ่มจากโบรกเกอร์” แต่เป็นการใช้เงินทุนจริงของเราเป็นหลักประกันหรือ Margin เพื่อควบคุมตำแหน่งขนาดใหญ่เท่านั้น ทำให้การใช้เลเวอเรจช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถขยายกำลังซื้อและสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้นจากการเคลื่อนไหวของราคาที่เล็กเพียงไม่กี่ pip


สมมติว่าคุณมีเงินทุน 1,000 USD และเปิดตำแหน่ง EUR/USD ขนาด 100,000 USD ด้วยเลเวอเรจ 1:100 การเคลื่อนไหวเพียง 10 pip (0.0010) จะทำให้คุณมีกำไรหรือขาดทุนประมาณ 1,000 USD ซึ่งเท่ากับทุนที่ใช้เปิดตำแหน่งทั้งหมด ตัวอย่างนี้ชี้ให้เห็นว่า เลเวอเรจ 1:100 ไม่เพียงเพิ่มโอกาสทำกำไร แต่ยังขยายความเสี่ยงอย่างมากด้วย นักเทรดที่ไม่บริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดได้ในเวลาอันสั้น


อย่างไรก็ดี แม้เลเวอเรจจะมีข้อดี แต่ก็เป็นดาบสองคม เพราะมีความเสี่ยงในการสูญเสียเงินทุนสูงตามขนาดเลเวอเรจ นักเทรดต้องเข้าใจว่าการเปิดตำแหน่งใหญ่เกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงต่อ Margin Call หรือการถูกบังคับปิดตำแหน่งโดยโบรกเกอร์ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นแม้ตลาดเคลื่อนไหวเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์


หมดเปลือกกับหลักการทำงานของเลเวอเรจ 1:100


เมื่อพูดถึง เลเวอเรจ 1:100 สิ่งที่นักเทรดส่วนใหญ่เห็นคือความสามารถในการเปิดตำแหน่งใหญ่กว่าทุนจริงถึง 100 เท่า แต่เบื้องหลังตัวเลขนี้คือกลไกการเงินที่ซับซ้อนและมีผลต่อทั้งกำไรและขาดทุนอย่างชัดเจน เลเวอเรจไม่ใช่ตัวสร้างเงินมหาศาลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเครื่องมือที่เปลี่ยนเงินทุนเล็ก ๆ ให้สามารถเคลื่อนผ่านตลาดขนาดใหญ่ได้ การเข้าใจวิธีมันทำงานจะช่วยให้คุณรู้ว่าทุกการเคลื่อนไหวของราคาในตลาด Forex จะส่งผลต่อบัญชีของคุณมากน้อยแค่ไหน


  • เงินทุนเริ่มต้น (Margin): คือจำนวนเงินที่ต้องวางเพื่อเปิดตำแหน่ง แต่ละตำแหน่งที่คุณเปิดต้องมีทุนรองรับตามอัตราเลเวอจ์ เช่น ตำแหน่ง 100,000 USD ต้องใช้ Margin 1,000 USD

  • ขนาดตำแหน่ง (Position Size): เลเวอเรจกำหนดขนาดสูงสุดที่คุณสามารถเปิดได้ ขนาดตำแหน่งใหญ่ขึ้นหมายถึงโอกาสกำไรสูง แต่ความเสี่ยงก็สูงตาม

  • ผลกระทบต่อความผันผวนของราคา: การเคลื่อนไหวของราคาเพียงไม่กี่ pip สามารถสร้างกำไรหรือขาดทุนมหาศาล เพราะเลเวอเรจขยายทั้งผลกำไรและขาดทุน

  • การบริหารความเสี่ยง: การตั้ง Stop Loss และ Take Profit, การเลือกขนาดล็อตที่เหมาะสม และการกำหนดสัดส่วนความเสี่ยงต่อการเทรด เป็นหัวใจสำคัญในการใช้เลเวอเรจให้ปลอดภัย

  • สัดส่วนทุนต่อเลเวอเรจ: การเลือกเลเวอเรจให้เหมาะกับทุนช่วยลดโอกาส Margin Call และช่วยให้การเทรดยั่งยืนมากขึ้น


พูดง่าย ๆ เลเวอเรจคือการ ขยายศักยภาพการเทรดด้วยทุนจริง แต่ก็ต้องใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงควบคู่ไปด้วย หากใช้โดยไม่เข้าใจ กลไกเลเวอเรจจะทำให้กำไรและขาดทุนเกิดขึ้นเร็วและรุนแรง การมองเห็นภาพรวมของมันตั้งแต่ต้นจึงสำคัญต่อการวางกลยุทธ์ทุกขั้นตอน


เลเวอเรจ 1:100 - EBC


สอนคำนวณสูตรการใช้เลเวอเรจ 1:100 เทรด Forex ด้วยตัวเอง


เมื่อต้องเทรด Forex ด้วย เลเวอเรจ 1:100 สิ่งแรกที่นักลงทุนควรเข้าใจคือวิธีคำนวณตำแหน่งและทุนรองรับ เพราะเลเวอเรจไม่ใช่เงินฟรี แต่เป็นเครื่องมือที่ขยายขนาดการลงทุนจากเงินทุนจริงอย่างมีประสิทธิภาพ การเรียนรู้สูตรพื้นฐานช่วยให้คุณวางแผนการเทรดได้แม่นยำและลดความเสี่ยงได้มาก


1. คำนวณขนาดตำแหน่งสูงสุดที่สามารถเปิดได้


สมมติว่าคุณมีเงินทุน 2,000 USD และต้องการเปิดตำแหน่ง EUR/USD ขนาดใหญ่ ด้วยเลเวอเรจ 1:100 สิ่งแรกที่ต้องทำคือ คำนวณขนาดตำแหน่งสูงสุดที่สามารถเปิดได้ ซึ่งสูตรง่าย ๆ คือการนำเงินทุนจริงคูณด้วยเลเวอเรจ ผลลัพธ์จะบอกคุณว่าต้องควบคุมตำแหน่งเท่าไร


  • เงินทุนจริง: 2,000 USD

  • เลเวอเรจ: 1:100

  • ขนาดตำแหน่งสูงสุด = 2,000 × 100 = 200,000 USD


2. คำนวณ Margin


ต่อมาคือการคำนวณ Margin หรือเงินทุนที่ต้องวางเป็นหลักประกัน ซึ่งในกรณีนี้ก็คือการนำขนาดตำแหน่งมาหารด้วยเลเวอเรจ ทำให้เห็นชัดว่าต้องมีทุนเท่าไรในการเปิดตำแหน่ง 200,000 USD (Margin = 200,000 ÷ 100 = 2,000 USD) หมายความว่าทุนจริงของคุณทั้งหมดถูกใช้เป็นหลักประกันเพื่อควบคุมตำแหน่งขนาดใหญ่


3. คำนวณ กำไรหรือขาดทุนต่อ pip


จากนั้นนักเทรดจะต้องคำนวณ กำไรหรือขาดทุนต่อ pip เพื่อประเมินผลกระทบของความผันผวนตลาด ตัวอย่างสำหรับล็อตมาตรฐาน 100,000 หน่วย EUR/USD กำไรหรือขาดทุนต่อ pip คือ 10 USD ต่อ 1 ล็อต หากเปิดตำแหน่ง 2 ล็อต หรือ 200,000 หน่วย การเคลื่อนไหวเพียง 50 pip จะมีผลดังนี้ กำไร/ขาดทุน = 2 ล็อต × 50 pip × 10 USD/pip = 1,000 USD


ดังนั้นนักเทรดที่มีประสบการณ์มักแบ่งตำแหน่งใหญ่เป็นหลายตำแหน่งย่อย เช่น แทนที่จะเปิด 2,000 USD เป็นตำแหน่งเดียว อาจแบ่งเป็น 4 ตำแหน่งย่อย 500 USD แต่ละตำแหน่งมี Stop Loss และ Take Profit ของตัวเอง วิธีนี้ช่วยให้สามารถปรับตำแหน่งได้ตามสภาพตลาด ลดโอกาสขาดทุนหนักจากความผันผวนเฉียบพลัน และยังสามารถติดตามผลกำไร/ขาดทุนได้อย่างเป็นระบบ


คำนวณ เลเวอเรจ 1:100  - EBC


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)


Q: เลเวอเรจ 1:100 เหมาะกับมือใหม่ไหม?

A: สำหรับมือใหม่ควรระมัดระวังเพราะเลเวอเรจสูงอาจทำให้ขาดทุนรวดเร็ว แนะนำเริ่มจากเลเวอเรจต่ำและเรียนรู้การบริหารทุนก่อน


Q: เลเวอเรจ 1:100 สามารถใช้กับคู่สกุลเงินทุกคู่ได้หรือไม่?

A: โดยทั่วไปโบรกเกอร์จะให้ใช้ได้กับหลายคู่ แต่บางคู่ที่มีความผันผวนสูงอาจจำกัดเลเวอเรจ ควรตรวจสอบกับโบรกเกอร์ก่อน


Q: การใช้เลเวอเรจสูงทำให้ต้องใช้ทุนมากขึ้นหรือไม่?

A: ไม่จำเป็นต้องใช้ทุนมากขึ้น แต่การบริหาร Margin สำคัญเพื่อหลีกเลี่ยง Margin Call


สรุป


เลเวอเรจ 1:100 เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถเปิดตำแหน่งในตลาด Forex ได้สูงกว่าทุนจริงถึง 100 เท่า เครื่องมือนี้ช่วยเพิ่มศักยภาพการทำกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาเพียงไม่กี่ pip แต่ก็ขยายความเสี่ยงในการขาดทุนเช่นกัน การเข้าใจหลักการทำงานและกลไกการคำนวณ Position Size, Margin และกำไร/ขาดทุนต่อ pip เป็นพื้นฐานสำคัญก่อนเริ่มเทรด


การใช้เลเวอเรจ 1:100 จำเป็นต้องมีการวางแผนและบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ นักเทรดมืออาชีพมักใช้กลยุทธ์เช่น การตั้ง Stop Loss และ Take Profit การแบ่งตำแหน่งใหญ่เป็นหลายตำแหน่งย่อย และการกำหนดความเสี่ยงต่อการเทรดแต่ละครั้งไม่เกิน 1-2% ของทุน ทั้งหมดนี้ช่วยให้สามารถใช้เลเวอเรจเพื่อสร้างโอกาสทำกำไรได้สูงสุดโดยยังคงควบคุมความเสี่ยงได้


สุดท้าย การคำนวณและเข้าใจวิธีใช้เลเวอเรจ 1:100 อย่างแม่นยำช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถวางแผนตำแหน่งและเงินทุนได้อย่างมีระบบ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตำแหน่งขนาดใหญ่ การติดตามความผันผวนของตลาด หรือการเลือกขนาดล็อตให้เหมาะสมกับเงินทุนทั้งหมด ทำให้เลเวอเรจกลายเป็นเครื่องมือที่เพิ่มศักยภาพการเทรดอย่างแท้จริง และไม่ใช่แค่ตัวเลขทางทฤษฎีในบัญชี


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
สิ่งที่ควรรู้ การใช้มาร์จิ้นและเลเวอเรจเทรดดัชนี
แจก 5 เทคนิคใช้เลเวอเรจเทรด Forex ยังไงไม่ให้พอร์ตแตก
เจาะลึกตลาด CFD ลงทุนอย่างไรให้ได้กำไร
XAUUSD คืออะไร? เข้าใจบทบาททองคำในโลกการเทรด
วิธีเลือกโบรกเกอร์ CFD ที่ดีที่สุดให้เหมาะกับสไตล์การเทรด