ทำความเข้าใจ Swap คืออะไร พร้อมสูตรคำนวณและเทคนิคใช้ Swap ใน Forex เพื่อเพิ่มผลกำไรและบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ
ค่า Swap คือ ต้นทุนหรือผลตอบแทนที่เกิดขึ้นเมื่อถือสถานะข้ามคืนในตลาด Forex ซึ่งแม้จะเป็นค่าใช้จ่ายแฝง แต่ก็มีความสำคัญต่อการวางกลยุทธ์การเทรดและการบริหารพอร์ตอย่างมีประสิทธิภาพ ทาำฝห้ในบทความนี้เราจะอธิบายให้เข้าใจว่า Swap คืออะไร มีสูตรคำนวณยังไงบ้าง พร้อมตัวอย่างการคำนวณจริง แลแนะนำกลยุทธ์การใช้ค่า Swap ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการเทรดทำกำไร
Swap คือ ค่าธรรมเนียมหรือผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจากการถือครองสถานะข้ามคืนในการเทรด Forex โดยเป็นผลต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสกุลเงินสองฝั่งในคู่เงินที่นักเทรดเปิดอยู่ โดยถ้าสกุลเงินที่เราถือมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าสกุลเงินที่ขาย เราจะได้รับ Swap เป็นบวก แต่ถ้าเป็นตรงกันข้าม เราจะต้องจ่ายค่า Swap เป็นลบ
ซึ่งในตลาด Forex การซื้อขายจะเป็นไปในลักษณะคู่เงิน (Currency Pairs) เช่น EUR/USD หรือ GBP/JPY ทำให้การคำนวณ Swap จะผูกกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางแต่ละประเทศโดยตรง ยกตัวอย่างเช่น หากธนาคารกลางสหรัฐปรับดอกเบี้ยขึ้น แต่ธนาคารกลางยุโรปยังคงดอกเบี้ยต่ำ นักลงทุนที่ถือ USD จะมีแนวโน้มได้รับค่า Swap บวกเมื่อเปิดสถานะ Long ในคู่ EUR/USD
ดังนั้นค่า Swap จึงไม่ใช่ค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์คิดขึ้นเอง แต่สะท้อนจากตลาดการเงินระหว่างประเทศ โบรกเกอร์มีหน้าที่แค่นำอัตรา Swap ดังกล่าวมาปรับและส่งต่อให้นักลงทุน ทำให้อาจมีการบวกส่วนต่าง (Markup) เล็กน้อยเพื่อครอบคลุมต้นทุนของโบรกเกอร์เจ้านั้น ๆ
การเข้าใจวิธีคำนวณ Swap ถือเป็นหัวใจสำคัญของการวางกลยุทธ์การเทรด Forex เพราะแม้ค่า Swap จะถูกคิดเป็นรายวันและดูเล็กน้อย แต่เมื่อนำมาสะสมแล้วสามารถสร้างผลกระทบต่อกำไรหรือขาดทุนได้ชัดเจน โดยสูตรพื้นฐานการคำนวณค่า Swap มีดังนี้
สูตรคำนวณ : Swap = (ขนาดสัญญา × ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย × อัตราแลกเปลี่ยน) ÷ 365
ขนาดสัญญา (Lot Size) คือจำนวนหน่วยของสกุลเงินที่คุณถือ เช่น 1 Lot ของ EUR/USD = 100,000 ยูโร
ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Differential) คือผลต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสกุลเงินที่ซื้อและสกุลเงินที่ขาย
อัตราแลกเปลี่ยน (Exchange Rate) ใช้สำหรับแปลงค่า Swap ให้เป็นสกุลเงินบัญชีของนักเทรด
365 ใช้เพื่อแปลงให้เป็นค่า Swap ต่อวัน
ตัวอย่างที่ 1: Long EUR/USD
เปิดสถานะ Long 1 Lot = 100,000 ยูโร
อัตราดอกเบี้ย EUR = 4% ต่อปี, USD = 1% ต่อปี → ผลต่าง 3% ต่อปี
Swap ต่อวัน ≈ 8.22 ยูโร → แปลงเป็นดอลลาร์ ≈ 9.04 USD
สมมติว่าคุณเปิดสถานะ Long 1 Lot EUR/USD ซึ่ง 1 Lot เท่ากับ 100,000 ยูโร ในเวลานั้นอัตราดอกเบี้ยยูโรอยู่ที่ 4% ต่อปี ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐมีอัตราดอกเบี้ยเพียง 1% ต่อปี ผลต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงินคือ 3% ต่อปี เมื่อแปลงเป็นรายวันจะได้ประมาณ 0.008219% ต่อวัน ซึ่งเมื่อนำมาคูณกับขนาดสัญญา 100,000 ยูโร จะได้ค่า Swap ประมาณ 8.22 ยูโร ต่อมาเมื่อนำไปแปลงเป็นดอลลาร์สหรัฐโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยน EUR/USD = 1.10 นักลงทุนจะได้รับ Swap ประมาณ 9.04 ดอลลาร์สหรัฐต่อคืน
ตัวอย่างที่ 2: Short EUR/USD
ผลต่างอัตราดอกเบี้ย = -3% ต่อปี
Swap ต่อวัน ≈ -8.22 ยูโร → แปลงเป็นดอลลาร์ ≈ -9.04 USD
หากคุณเปิดสถานะ Short 1 Lot EUR/USD ผลต่างอัตราดอกเบี้ยจะกลับด้านเป็น -3% ต่อปี แปลงเป็นรายวันได้ประมาณ -0.008219% ต่อวัน คูณกับขนาดสัญญา 100,000 ยูโร จะได้ Swap ลบประมาณ -8.22 ยูโร และเมื่อแปลงเป็นดอลลาร์สหรัฐจะต้องจ่ายประมาณ 9.04 ดอลลาร์สหรัฐต่อคืน
ตัวอย่างที่ 3: วันพุธ Rollover
Swap คูณ 3 เท่าเพื่อชดเชยเสาร์-อาทิตย์
Long EUR/USD คืนวันพุธ → Swap ≈ 27.12 USD
Short → Swap ลบ 3 เท่า
ในกรณีที่ถือสถานะ ข้ามคืนวันพุธ Swap จะถูกคูณ สามเท่า เพื่อชดเชยวันเสาร์-อาทิตย์ที่ตลาดปิด เช่น หากถือ Long EUR/USD คืนวันพุธ นักลงทุนจะได้รับ Swap ประมาณ 27.12 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ Short จะต้องจ่าย Swap ลบสามเท่าเช่นกัน
**หมายเหตุ : สำหรับนักลงทุนที่ถือสถานะหลายวันหรือหลายสัปดาห์ Swap จะสะสมเป็นต้นทุนหรือผลตอบแทนจริง
แม้ค่า Swap อาจเป็นต้นทุนแฝงสำหรับเทรดเดอร์ที่ถือสถานะข้ามคืนก็จริง แต่ถ้าใช้ให้เป็นกลยุทธ์ เราสามารถเปลี่ยน Swap ให้กลายเป็นเครื่องมือสร้างรายได้หรือช่วยลดต้นทุนในการเทรดได้ เพราะการวางแผนและเลือกคู่เงินที่เหมาะสม รวมถึงบริหารทิศทาง Long/Short อย่างฉลาด จะทำให้ Swap ไม่ใช่แค่ค่าใช้จ่าย แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของแผนทำกำไรได้ด้วย
Carry Trade: พลิกค่า Swap เป็นกำไรระยะยาว
กลยุทธ์ Carry Trade คือการถือสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงและขายสกุลเงินที่มีดอกเบี้ยต่ำเพื่อรับค่า Swap บวกทุกคืน เช่น นักลงทุนอาจถือ Long AUD/JPY ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยออสเตรเลียสูงกว่าเงินเยน การถือสถานะข้ามคืนจะทำให้ได้รับค่า Swap เป็นรายได้สะสม กลยุทธ์นี้เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว และควรประเมินความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาและอัตราแลกเปลี่ยนควบคู่ไปด้วย
Hedging โดยใช้ Swap ชดเชยต้นทุน
นักลงทุนบางครั้งอาจต้องเปิดสถานะในคู่เงินที่มี Swap ลบสูง การใช้ Swap เป็นเครื่องมือ Hedging ช่วยลดผลกระทบจากต้นทุนนี้ เช่น เปิดสถานะตรงข้ามในคู่เงินที่มี Swap บวกเพื่อลดการสูญเสียสะสม เทคนิคนี้ไม่สามารถทำให้ต้นทุนเป็นศูนย์ได้ทั้งหมด แต่ช่วยปรับสมดุลและบริหารความเสี่ยงได้ดีกว่าการถือสถานะเพียงอย่างเดียว
เลือกคู่เงินที่ให้ Swap บวกสูง
การวิเคราะห์และเลือกคู่เงินที่ให้ Swap บวกสูงช่วยสร้างรายได้เสริมโดยไม่กระทบกับกลยุทธ์หลักของพอร์ต เช่น หากนักลงทุนต้องถือ Long หลายวัน ควรตรวจสอบตาราง Swap ของโบรกเกอร์เพื่อเลือกคู่เงินที่ให้ผลตอบแทนสะสมสูงสุด การทำเช่นนี้ต้องพิจารณาความผันผวนและแนวโน้มราคาควบคู่กัน เพื่อไม่ให้ Swap บวกถูกกินด้วยการเคลื่อนไหวของราคา
การถือสถานะข้ามคืนในช่วงอัตราดอกเบี้ยต่างชัดเจน
เมื่อมีข่าวปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง นักลงทุนสามารถใช้ช่วงเวลานี้สร้างรายได้จาก Swap การถือสถานะข้ามคืนในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยต่างสูงจะทำให้ Swap สะสมเร็วขึ้น ตัวอย่างเช่น หากธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ธนาคารอื่นคงดอกเบี้ย คู่อัตราดอกเบี้ยต่างชัดเจนสามารถสร้างโอกาส Swap บวกในระยะสั้นถึงกลางได้
วางแผนสลับ Long/Short เพื่อลดผลกระทบ Swap ลบ
นักลงทุนที่ต้องเปิดสถานะหลายคู่สามารถปรับกลยุทธ์ Long/Short เพื่อบริหาร Swap ได้ เช่น หากคู่หนึ่งมี Swap ลบสูง อาจถือ Short คู่ที่ให้ Swap บวกเพื่อลดผลกระทบสะสม เทคนิคนี้ต้องอาศัยการติดตามตาราง Swap และการประเมินความเสี่ยงจากความผันผวนของคู่เงินอย่างสม่ำเสมอ
ใช้ Swap เป็นตัวชี้วัดกลยุทธ์ Carry Trade ระยะสั้น
นักลงทุนบางรายใช้ Swap เป็นสัญญาณเลือกคู่เงินสำหรับ Carry Trade ระยะสั้น โดยเปรียบเทียบ Swap ของคู่เงินหลายคู่และคำนวณผลตอบแทนสะสมต่อวัน การวิเคราะห์ล่วงหน้าทำให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์รายได้จาก Swap และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาพตลาด
Q: Swap คือค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์คิดเองหรือไม่?
A: ไม่ใช่ ค่า Swap เกิดจากผลต่างดอกเบี้ยระหว่างประเทศ โบรกเกอร์เพียงนำมาปรับใช้และอาจบวกส่วนต่างเพื่อครอบคลุมต้นทุนการดำเนินงาน
Q: ทำไมวันพุธถึงคิดค่า Swap สามเท่า?
A: เพราะเป็นการชดเชยการส่งมอบข้ามสัปดาห์ (รวมเสาร์-อาทิตย์) ที่ตลาด Forex ปิด แต่การคำนวณดอกเบี้ยยังดำเนินต่อเนื่อง
Q: สามารถใช้กลยุทธ์ Swap เพื่อทำกำไรระยะยาวได้จริงหรือไม่?
A: ทำได้ โดยเฉพาะการใช้กลยุทธ์ Carry Trade แต่ต้องระวังความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาและการเปลี่ยนแปลงนโยบายดอกเบี้ย
ค่า Swap คือต้นทุนหรือผลตอบแทนที่เกิดขึ้นเมื่อถือสถานะข้ามคืนในตลาด Forex ซึ่งเกิดจากผลต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงิน นักลงทุนที่เข้าใจ Swap สามารถประเมินต้นทุนที่แท้จริงของการถือสถานะ และวางแผนกลยุทธ์ได้แม่นยำมากขึ้น การรู้สูตรคำนวณ Swap ช่วยให้สามารถคาดการณ์รายได้หรือค่าใช้จ่ายรายวัน และนำไปปรับแผนเทรดเพื่อบริหารกำไรและความเสี่ยง
การเข้าใจสูตรคำนวณ Swap และปัจจัยอื่น ๆ เช่น วันพุธ Rollover, ทิศทาง Long/Short, ตาราง Swap ของโบรกเกอร์ และอัตราแลกเปลี่ยน เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเทรดที่ต้องการใช้ Swap อย่างมีประสิทธิภาพ
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใด ๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใด ๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
เจาะลึกความหมายของดัชนี คืออะไร พร้อมแนะนำ 6 ดัชนีหุ้นสำคัญทั่วโลก วิธีคำนวณ และเทคนิคใช้ดัชนีชี้นำแนวโน้มตลาดหุ้นและการเทรด Forex
2025-08-25สถาบันการเงิน คือ ตัวกลางสำคัญของระบบเศรษฐกิจ ช่วยหมุนเวียนเงินทุน สนับสนุนธุรกิจ และบริหารความเสี่ยง มาดูประเภทของสถาบันการเงิน พร้อมเปรียบเทียบกับนักลงทุนรายย่อย
2025-08-25ค้นพบประเภทหลักของโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ ได้แก่ ผู้สร้างตลาด, ECN, STP และไฮบริด และเรียนรู้วิธีเลือกพันธมิตรการซื้อขายที่ได้รับการควบคุมดูแลและเชื่อถือได้
2025-08-25