Prop Trade คืออะไร? คู่มือสำหรับมือใหม่
简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

Prop Trade คืออะไร? คู่มือสำหรับมือใหม่

เผยแพร่เมื่อ: 2025-04-10   
อัปเดตเมื่อ: 2025-05-06

Proprietary Trading หรือที่เรียกกันว่า "Prop Trade" คือการที่สถาบันหรือบริษัทใช้เงินทุนของตนเองในการซื้อขายสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น หุ้น พันธบัตร สกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ อนุพันธ์ หรือเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ แทนที่จะทำการซื้อขายเพื่อผลประโยชน์ของลูกค้า


วัตถุประสงค์หลักของการเทรดในลักษณะนี้คือการสร้างกำไรจากกิจกรรมในตลาดโดยตรง โดยใช้เงินทุนของบริษัทเอง ซึ่งแตกต่างจากการเทรดแบบดั้งเดิมที่บริษัทจะได้รับค่าคอมมิชชันหรือค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมให้ของลูกค้า


ทำความเข้าใจ Pop Trade และวิธีการทำงาน

ทำความเข้าใจ Pop Trade และวิธีการทำงาน - EBC

การเทรดแบบ Pop Trade หรือ Proprietary Trading คือการที่สถาบันการเงินใช้เงินทุนของตนเองในการทำการซื้อขายต่าง ๆ โดยมุ่งหวังที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสในตลาดและสร้างผลตอบแทนที่สูง การทำเช่นนี้ทำให้บริษัทสามารถเก็บกำไรทั้งหมดจากการเทรดของตน ซึ่งมีศักยภาพในการทำกำไรที่สูงกว่าการรับค่าธรรมเนียมหรือค่าคอมมิชชันจากการทำธุรกรรมให้กับลูกค้า


บริษัทที่ทำการเทรดแบบ Prop Trade จะมีเทรดเดอร์ที่ใช้เงินทุนของบริษัทในการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินต่าง ๆ เช่น หุ้น พันธบัตร สินค้าโภคภัณฑ์ สกุลเงินและอนุพันธ์


เทรดเดอร์เหล่านี้จะใช้กลยุทธ์และเทคโนโลยีขั้นสูงในการระบุและใช้ประโยชน์จากความผิดปกติในตลาด เช่น การทำกำไรจากส่วนต่างของราคา (arbitrage) การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาความเคลื่อนไหวของราคาจากกิจกรรมการเทรด และการเทรดตามภาพรวมเศรษฐกิจและการเมืองโลก (macro trading) เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ


เทรดเดอร์ของบริษัทใช้เทคโนโลยีและการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงในการทำการเทรดอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งหวังที่จะเพิ่มผลกำไรให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม การทำเช่นนี้ยังนำมาซึ่งความเสี่ยงที่สูง เพราะการขาดทุนจะมีผลกระทบโดยตรงต่อเงินทุนของบริษัท


ประโยชน์และความเสี่ยงของ Pop Trade

Prop Trade มีข้อดีหลายประการสำหรับสถาบันการเงิน ได้แก่:

  • ศักยภาพในการทำกำไรสูง: เนื่องจากใช้เงินทุนของบริษัทเองในการเทรด จึงสามารถเก็บกำไรทั้งหมดไว้โดยไม่ต้องแบ่งให้ลูกค้า

  • การควบคุมที่ดีกว่า: บริษัทสามารถควบคุมกลยุทธ์และการตัดสินใจในการลงทุนได้อย่างเต็มที่ ทำให้สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วเมื่อตลาดเปลี่ยนแปลง

  • การกระจายรายได้: Prop Trade ช่วยให้บริษัทมีแหล่งรายได้ที่หลากหลาย นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมหรือบริการที่ให้กับลูกค้า


อย่างไรก็ตาม แม้จะมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนสูงแต่การเทรดในลักษณะนี้ก็มีความเสี่ยงไม่น้อย:

  • ความเสี่ยงต่อเงินทุน: การใช้เงินของบริษัทเองหมายความว่า หากเกิดความผิดพลาดหรือขาดทุน จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อสถานะทางการเงินของบริษัท

  • ความผันผวนของตลาด: การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของตลาดสามารถส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด บริษัทจึงต้องมีระบบบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม

  • การกำกับดูแลจากหน่วยงานกำกับ: Prop Trade อยู่ภายใต้การตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับทางการเงิน ซึ่งบริษัทต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมาย


เริ่มต้นเข้าสู่เส้นทาง Prop Trade อย่างไร

หากคุณสนใจที่จะเข้าสู่วงการ Prop Trade มีหลายเส้นทางที่สามารถเริ่มต้นได้ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่มีบริษัทหลายแห่งเปิดรับเทรดเดอร์หน้าใหม่ พร้อมทั้งมีโปรแกรมฝึกอบรมและระบบพี่เลี้ยง (Mentorship) เพื่อพัฒนาทักษะที่จำเป็น


สิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นคือการสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งในด้านตลาดการเงิน กลยุทธ์การเทรด การบริหารความเสี่ยง และการวิเคราะห์ทางเทคนิค นอกจากนี้ การมีทักษะด้านคณิตศาสตร์เชิงปริมาณ และความคุ้นเคยกับซอฟต์แวร์หรืออัลกอริธึมการเทรดยังเป็นข้อได้เปรียบอีกด้วย


หากคุณตั้งเป้าหมายไว้ชัดเจนแล้วเราขอแนะนำ 3 ขั้นตอนในการเริ่มต้นดังนี้:

  1. เรียนรู้และฝึกฝน: ศึกษาความรู้เกี่ยวกับตลาดการเงินกลยุทธ์การเทรดและหลักการบริหารความเสี่ยงอย่างลึกซึ้ง

  2. เก็บเกี่ยวประสบการณ์: ฝึกเทรดจากบัญชีจำลองหรือเข้าร่วมฝึกงานเพื่อพัฒนาทักษะและสร้างผลงาน (track record)

  3. สมัครเข้าร่วมกับบริษัท Prop Trade: มองหาบริษัทที่มีชื่อเสียงซึ่งเปิดรับเทรดเดอร์รุ่นใหม่และมีโปรแกรมฝึกอบรมอย่างเป็นระบบ


ความแตกต่างระหว่าง Prop Trade กับ Hedge Funds

 ความแตกต่างระหว่าง Prop Trade กับ Hedge Funds - EBC

แม้ว่าทั้งบริษัทที่ทำ Prop Trade และกองทุน Hedge Funds จะมีเป้าหมายหลักเหมือนกันคือแสวงหากำไรจากการเทรดในตลาดการเงิน แต่โครงสร้างการดำเนินงานของทั้งสองประเภทแตกต่างกันอย่างชัดเจน


บริษัท Prop Trade จะใช้เงินทุนของตนเองในการเทรดทั้งหมด โดยเก็บกำไรไว้ทั้งหมดและรับความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว


ในทางตรงกันข้าม กองทุน Hedge Funds จะระดมทุนจากนักลงทุนภายนอก แล้วนำเงินเหล่านั้นไปบริหารจัดการและเทรดแทนผู้ลงทุน โดยจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการ (Management Fee) และค่าธรรมเนียมตามผลตอบแทน (Performance Fee)


ความแตกต่างพื้นฐานนี้ ส่งผลต่อระดับความเสี่ยง ข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ และรูปแบบการแบ่งผลกำไรของทั้งสองประเภทโดยตรง


สรุป

Prop Trade ถือเป็นอีกหนึ่งมิติที่น่าจับตามองและมีศักยภาพในการทำกำไรสูงในวงการการเงิน เนื่องจากบริษัทใช้เงินทุนของตนเองในการเข้าร่วมกิจกรรมในตลาด


แม้ว่าจะเปิดโอกาสให้สร้างผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจ แต่ก็แฝงไว้ด้วยความเสี่ยงในระดับสูง และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลด้านกฎระเบียบอย่างเข้มงวด ดังนั้น การทำความเข้าใจในรายละเอียดของระบบการเทรดประเภทนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทั้งบุคคลและสถาบันที่สนใจจะเข้าสู่เส้นทางนี้ โดยต้องให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม และการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
EBC Financial Group ได้รับรางวัล “Best Broker for Execution” จากงาน Professional Trader Awards 2025
โบรกเกอร์ค่าธรรมเนียมถูกที่สุด สำหรับนักเทรด Forex
Liquidity Sweep คืออะไร? เข้าใจกลยุทธ์เทรด
​EBC และ Brokeree Solutions สร้างความร่วมมือทางความรู้เชิงกลยุทธ์เพื่อเสริมสร้างพลังให้กับชุมชนการซื้อขายระดับโลก
จิตวิทยาเทรด พลิกเกมการลงทุนเหนือกลยุทธ์