เผยแพร่เมื่อ: 2025-10-10
10 ต.ค. 2025 - ตลาดโลหะมีค่าผันผวนแรง หลังราคาทองคำร่วงต่ำกว่า 4,000 ดอลลาร์ ขณะที่ซิลเวอร์กลับพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบสี่ทศวรรษ จากแรงหนุนของความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐ และความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมปลายเดือนนี้
New York Times รายงานว่า สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐ (Bureau of Labor Statistics: BLS) ได้เรียกเจ้าหน้าที่บางส่วนกลับจากการพักงาน (furlough) เพื่อจัดทำรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนกันยายน ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญต่อการคำนวณ “การปรับค่าครองชีพประจำปี (COLA)” สำหรับผู้รับบำนาญหลายล้านคนในสหรัฐ
เจ้าหน้าที่รัฐบาลระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวสะท้อน “ความสำคัญของข้อมูลเงินเฟ้อเดือนกันยายน” ต่อการประกาศปรับ COLA ซึ่งอ้างอิงจากข้อมูล CPI ในไตรมาสที่สาม โดยหากการเผยแพร่ล่าช้าเกินไปอาจกระทบต่อกำหนดการประกาศอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม รายงาน CPI จะไม่สามารถเปิดเผยได้ในวันที่ 15 ตุลาคมตามแผนเดิม ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลดังกล่าวถูกเลื่อนออกไปก่อนการประชุมกำหนดนโยบายของ Fed วันที่ 28–29 ตุลาคมนี้
ราคาทองคำร่วงลงแรงในคืนวันพฤหัสบดี หลังแตะจุดสูงสุดใหม่ที่ 4,058 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะหลุดระดับ 4,000 ดอลลาร์ โดยล่าสุด XAU/USD เคลื่อนไหวที่ 3,978 ดอลลาร์ ลดลง 1.5% ท่ามกลางแรงเทขายทำกำไรและค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (DXY) เพิ่มขึ้น 0.62% แตะ 99.42 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ขยับขึ้น 2 จุดพื้นฐานที่ 4.148% ส่วนอัตราผลตอบแทนที่แท้จริง (Real Yield) ขึ้นมาที่ 1.798% ซึ่งโดยทั่วไปเคลื่อนไหวสวนทางกับราคาทองคำ
แม้ราคาทองจะย่อตัว แต่ Goldman Sachs ยังคงมุมมองเชิงบวก โดยปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองในปี 2026 จาก 4,300 ดอลลาร์เป็น 4,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงซื้อของกองทุน ETF และธนาคารกลางทั่วโลก
ในฝั่งนโยบายการเงิน Fed Governor Michael Barr ระบุว่า “นโยบายปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสมและค่อนข้างเข้มงวด” พร้อมเตือนว่าความไม่แน่นอนด้านเงินเฟ้อและตลาดแรงงานยังคงต้องใช้ “แนวทางระมัดระวัง” ต่อการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม ขณะที่ตลาดฟิวเจอร์สคาดการณ์โอกาสกว่า 94% ที่ Fed จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมสิ้นเดือนนี้
ด้านเทคนิค ราคาทองยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แม้โมเมนตัมเริ่มอ่อนตัว โดย RSI ลดลงจาก 86.13 เหลือ 75.40 หากราคาปิดต่ำกว่า 3,950 ดอลลาร์ มีโอกาสถอยลงสู่แนวรับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วันบริเวณ 3,800 ดอลลาร์
ราคาซิลเวอร์ (XAG/USD) พุ่งขึ้นแตะระดับ 49.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงเช้าวันศุกร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบสี่ทศวรรษ ได้แรงหนุนจากกระแสเงินไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย ความต้องการเชิงอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง และความคาดหวังว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ย
Michael DiRienzo ซีอีโอของ Silver Institute กล่าวว่าความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกและภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐ “ผลักให้นักลงทุนหันมาถือสินทรัพย์จริงอย่างเงินซิลเวอร์มากขึ้น”
ตลาดปัจจุบันให้โอกาสเกือบ 95% ที่ Fed จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนตุลาคม และมีโอกาสราว 82% สำหรับการลดเพิ่มเติมในเดือนธันวาคม จากเดิมที่เคยสูงถึง 90% ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยลดต้นทุนโอกาสของการถือครองโลหะมีค่าอย่างซิลเวอร์ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคมหาวิทยาลัยมิชิแกน (U-Mich) ที่จะประกาศภายหลังในวันศุกร์ รวมถึงคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ Fed อย่าง Goolsbee และ Musalem ซึ่งอาจมีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์และราคาสินค้าโภคภัณฑ์
ภาพรวมตลาดโลหะมีค่าช่วงนี้เต็มไปด้วยความผันผวนสูง ทองคำปรับฐานหลังขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ ขณะที่ซิลเวอร์กลับโดดเด่นแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี สะท้อนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอน การชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐ และแนวโน้มที่เฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยในปลายเดือนตุลาคม นักลงทุนยังคงต้องจับตาทั้งตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) ที่เลื่อนประกาศ และท่าทีของเฟด ซึ่งจะเป็นตัวชี้ทิศทางสำคัญของทองคำและซิลเวอร์ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2025
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใด ๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใด ๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ