เผยแพร่เมื่อ: 2025-09-29 อัปเดตเมื่อ: 2025-09-30
วันจันทร์ที่ผ่านมา ค่าเงินฟรังก์สวิสแข็งค่าขึ้น เนื่องจากความเสี่ยงที่การปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ขณะเดียวกัน ทรัมป์กำลังประชุมกับผู้นำสภาคองเกรสที่ทำเนียบขาว เพื่อแก้ไขปัญหานี้ก่อนถึงเส้นตาย
ธนาคารกลางสวิส (SNB) คงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานไว้ที่ศูนย์ เมื่อวันพฤหัสบดีซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในบรรดาธนาคารกลางขนาดใหญ่ พร้อมเตือนว่า มาตรการภาษีของทรัมป์ได้ส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจเข้าสู่ปี 2026 ดูไม่สดใส
นักวิเคราะห์ยังเน้นย้ำถึงเสถียรภาพของค่าเงินฟรังก์สวิสเมื่อเทียบกับยูโร ซึ่งเป็นเหตุผลที่ยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ ประธานมาร์ติน ชเลเกล ย้ำจุดยืนของเขาว่ายังมีอุปสรรคสำคัญในการนำอัตราดอกเบี้ยติดลบกลับมาใช้อีกครั้ง
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปทรงตัวที่ 0.2% ในเดือนสิงหาคม สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 0.1% ตัวเลขดังกล่าวน่าจะยังคงใกล้เคียงศูนย์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ประกาศว่าผลิตภัณฑ์ยาที่มีชื่อตราสินค้าหรือได้รับการจดสิทธิบัตรจะถูกเรียกเก็บภาษี 100% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เว้นแต่บริษัทดังกล่าวจะสร้างโรงงานผลิตในสหรัฐฯ
คาดว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะไม่ทำให้รัฐต่างๆ พึ่งพาการจัดหายาจากต่างประเทศลดลง และผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าผลกระทบต่อประเทศผู้ส่งออก เช่น สวิตเซอร์แลนด์ ก็มีแนวโน้มว่าจะจำกัดอยู่ค่อนข้างมากเช่นกัน
ค่าเงินฟรังก์สามารถยืนแนวรับที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (50 SMA) ได้ ทำให้มีโอกาส ปรับตัวขึ้นต่อไปยังระดับ 0.7900 ดอลลาร์สหรัฐต่อฟรังก์ ในช่วงวันข้างหน้า แนวโน้มขาขึ้นที่ดำเนินมาตลอดหลายเดือนจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจนกว่าระดับเส้นสีน้ำเงินจะไม่สามารถยืนได้
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
