1 pip เท่ากับกี่จุด? คู่มือคำนวณ Pip สำหรับเทรด Forex มือใหม่

การเข้าใจว่า 1 pip เท่ากับกี่จุด เป็นเรื่องพื้นฐานที่เทรดเดอร์ทุกคนควรรู้ เพราะ pip เป็นหน่วยวัดความเคลื่อนไหวของราคาในตลาด Forex ที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงจริงของคู่สกุลเงิน แม้โดยทั่วไป 1 pip จะหมายถึงการขยับราคาทศนิยมตำแหน่งที่สี่ แต่ค่าที่แท้จริงของ pip อาจแตกต่างกันไปตามคู่เงิน ขนาดล็อต หรือสภาพคล่องของตลาด ในบทความนี้เราจึงจะไปเปิดข้อมูลว่าค่า pip คืออะไร มีสูตรคำนวณยังไง พร้อมปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าการขยับของค่า pip

เคลียร์ชัด 1 pip เท่ากับกี่จุดในตลาดการลงทุน

ก่อนเราจะไปตอบคำถามว่า 1 pip เท่ากับกี่จุดนั้น เราต้องเข้าใจก่อนว่า Percentage in Point หรือ Pip คือหน่วยวัดการเคลื่อนไหวของราคาในตลาด Forex ทำให้สำหรับคู่สกุลเงินส่วนมาก 1 pip คือการเปลี่ยนแปลงของราคาตัวเลขหลังทศนิยมตำแหน่งที่สี่ เช่น คู่เงิน EUR/USD หากราคาขยับจาก 1.1050 เป็น 1.1051 จะถือว่าเพิ่มขึ้น 1 pip

ดังนั้นในระบบเทรดส่วนใหญ่ 1 pip จะเท่ากับ 10 จุดย่อยหรือ 10 points เพราะบางโบรกเกอร์ใช้ทศนิยมห้าตำแหน่งเรียกว่า Pipette ซึ่งช่วยให้สามารถวัดความผันผวนราคาขนาดเล็กได้ละเอียดขึ้นนั่นเอง

• สำหรับคู่เงินส่วนใหญ่: 1 pip = 0.0001

• สำหรับคู่เงินที่มีค่า JPY: 1 pip = 0.01

วิธีคำนวณ pip อย่างแม่นยำสำหรับทุกคู่เงิน

การคำนวณ pip อย่างแม่นยำเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ เพราะช่วยประเมินกำไรและขาดทุน รวมถึงการตั้ง Stop Loss และ Take Profit ได้เหมาะสม สำหรับคู่เงินส่วนใหญ่ 1 pip คือการเปลี่ยนแปลงของราคา ทศนิยมตำแหน่งที่สี่ (0.0001) ส่วนคู่เงินที่ใช้ JPY 1 pip คือ ทศนิยมตำแหน่งที่สอง (0.01)

1. สำหรับคู่เงินที่มี USD เป็นสกุลเงินบัญชี

สูตร: มูลค่า pip (USD) = ขนาดล็อต × ขนาด pip

• ขนาดล็อต = จำนวนหน่วยสกุลเงินฐาน (เช่น 1 ล็อตมาตรฐาน = 100,000 หน่วย)

• ขนาด pip = 0.0001 สำหรับคู่เงินส่วนใหญ่, 0.01 สำหรับคู่เงิน JPY

ตัวอย่าง EUR/USD:

- ขนาดล็อต = 100,000 ยูโร

- ขนาด pip = 0.0001

- มูลค่า pip = 100,000 × 0.0001 = 10 USD ต่อ 1 pip

ตัวอย่าง USD/JPY:

- ขนาดล็อต = 100,000 USD

- ขนาด pip = 0.01

- ราคาปัจจุบัน = 110.50

- มูลค่า pip = (100,000 × 0.01) / 110.50 ≈ 9.05 USD ต่อ 1 pip

2. สำหรับคู่เงินที่ไม่ใช่ USD เป็นสกุลเงินบัญชี

สูตร: มูลค่า pip (บัญชีสกุลเงินอื่น) = (ขนาดล็อต × ขนาด pip) × อัตราแลกเปลี่ยน

ตัวอย่าง EUR/GBP บัญชีเงิน USD

- ขนาดล็อต = 100,000 ยูโร

- ขนาด pip = 0.0001

- อัตราแลกเปลี่ยน EUR/USD = 1.1050

- มูลค่า pip = (100,000 × 0.0001) × 1.1050 ≈ 11.05 USD ต่อ 1 pip

รวม 5 ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อค่า pip มีอะไรบ้าง?

แม้การเข้าใจว่า 1 pip เท่ากับกี่จุดจะเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ แต่ความจริงแล้วค่า pip ไม่ได้คงที่เสมอไป เพราะค่า pip สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามคู่สกุลเงิน ขนาดล็อต อัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงสภาพคล่องของตลาดและเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญ ดังนั้นต่อไปนี้เราจะมาเจาะลึกถึงปัจจัยหลัก ๆ ที่ส่งผลต่อค่า pip

1. ขนาดล็อต (Lot Size)

ขนาดล็อตเป็นตัวกำหนดมูลค่าของ pip โดยตรง ล็อตมาตรฐานในฟอเร็กซ์คือ 100,000 หน่วยสกุลเงิน หากคุณเปิดออเดอร์ขนาดใหญ่ มูลค่าของ pip ต่อการเคลื่อนไหว 1 pip จะสูงขึ้นตามไปด้วย ทำให้นักเทรดต้องระมัดระวังเรื่องความเสี่ยงและกำไร

สำหรับล็อตขนาดเล็ก เช่น Mini Lot (10,000 หน่วย) หรือ Micro Lot (1,000 หน่วย) มูลค่า pip จะลดลงตามสัดส่วน ซึ่งเหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่หรือผู้ที่ต้องการจัดการความเสี่ยงแบบค่อยเป็นค่อยไป การปรับขนาดล็อตให้เหมาะสมช่วยให้นักเทรดสามารถวางกลยุทธ์ได้ยืดหยุ่น

• ล็อตมาตรฐาน = 100,000 หน่วย

• Mini Lot = 10,000 หน่วย

• Micro Lot = 1,000 หน่วย

**หมายเหตุ : ยิ่งล็อตใหญ่ มูลค่า pip สูง → ความเสี่ยงและกำไรสูง

2. คู่สกุลเงิน (Currency Pair)

คู่สกุลเงินแต่ละคู่มีลักษณะการคำนวณ pip ต่างกัน โดยเฉพาะคู่เงินที่มีค่าเงินเยน เช่น USD/JPY, EUR/JPY จะมีค่า pip = 0.01 ส่วนคู่เงินอื่น ๆ ส่วนใหญ่มีค่า pip = 0.0001 การรู้จักลักษณะคู่เงินจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการประเมินมูลค่าของ pip

นอกจากนี้ คู่สกุลเงินบางคู่มีความผันผวนสูง ทำให้ pip เคลื่อนไหวเร็ว การเข้าใจคุณสมบัติของคู่เงินช่วยให้นักเทรดวางแผนการซื้อขายและการจัดการความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม

• คู่เงิน JPY: 1 pip = 0.01

• คู่เงินอื่น ๆ: 1 pip = 0.0001

• คู่เงินผันผวนสูง → pip เคลื่อนไหวเร็ว

3. อัตราแลกเปลี่ยน (Exchange Rate)

อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินบัญชีของนักเทรดกับคู่สกุลเงินที่ซื้อขายมีผลต่อมูลค่า pip การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้กำไรหรือขาดทุนจริงที่เกิดขึ้นในบัญชีแตกต่างจาก pip ที่แสดงในตลาด

ตัวอย่างเช่น หากบัญชีเทรดของคุณเป็น USD และซื้อ EUR/GBP การเคลื่อนไหว 1 pip จะต้องแปลงค่าเป็น USD เพื่อคำนวณกำไรหรือขาดทุน ดังนั้นอัตราแลกเปลี่ยนจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

• คู่เงินที่ไม่ใช่สกุลเงินบัญชีต้องแปลงค่า pip เป็นสกุลเงินบัญชี

• เปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน → กำไร/ขาดทุนจริงแตกต่าง

4. สภาพคล่องของตลาด (Market Liquidity)

ตลาดที่มีสภาพคล่องสูง เช่น EUR/USD มักมีค่า spread ต่ำและ pip ที่เสถียร ในขณะที่คู่เงินที่มีสภาพคล่องต่ำหรือ exotic pairs อาจมี pip เปลี่ยนแปลงเร็วและไม่แน่นอน การเลือกคู่เงินที่เหมาะสมจึงสำคัญสำหรับการเทรดแบบมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ช่วงเวลาที่ตลาดเปิด-ปิด และข่าวเศรษฐกิจสำคัญก็มีผลต่อสภาพคล่องและความผันผวนของ pip ตลาดที่มีความผันผวนสูงอาจทำให้ pip เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การเข้าใจสภาพคล่องช่วยให้นักเทรดวางแผนจังหวะการเข้าตลาดได้ดียิ่งขึ้น

• ตลาดมีสภาพคล่องสูง → pip เสถียร, spread ต่ำ

• ตลาด exotic / น้อยสภาพคล่อง → pip เปลี่ยนแปลงเร็ว

5. ข่าวเศรษฐกิจและเหตุการณ์สำคัญ (Economic Events)

ข่าวเศรษฐกิจ เช่น การประกาศตัวเลข GDP, CPI หรืออัตราดอกเบี้ย ส่งผลต่อความผันผวนของคู่สกุลเงินอย่างมาก การเคลื่อนไหวของราคาในช่วงประกาศข่าวมักมี pip ที่สูงขึ้น ทำให้นักเทรดต้องระวังเรื่องความเสี่ยง

นอกจากข่าวเศรษฐกิจแล้ว เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองหรือความไม่แน่นอนในตลาดโลกก็สามารถทำให้ค่า pip แปรผันสูง การติดตามปฏิทินข่าวและเหตุการณ์สำคัญจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักเทรดทุกระดับ

• ตัวเลข GDP, CPI, ดอกเบี้ย → pip เพิ่มขึ้น

• เหตุการณ์การเมืองหรือความไม่แน่นอน → pip แปรผันสูง

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

Q: Pip และ Point ต่างกันอย่างไร?

A: Point คือหน่วยย่อยของ pip โดยทั่วไป 1 pip = 10 points สำหรับคู่สกุลเงินส่วนใหญ่

Q: ทุกคู่เงินมีค่า pip เท่ากันหรือไม่?

A: ไม่เท่ากัน คู่เงินที่มีค่าเงินเยนมีค่า pip = 0.01 ส่วนคู่เงินอื่นส่วนใหญ่ = 0.0001

Q: จะคำนวณกำไร/ขาดทุนจาก pip ยังไง?

A: กำไร/ขาดทุน = จำนวน pip × ขนาดล็อต × มูลค่า pip ของคู่เงินนั้น

สรุป

การเข้าใจว่า 1 pip เท่ากับกี่จุด เป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้นักเทรดสามารถประเมินความเสี่ยงและกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างแม่นยำ เพราะ pip เป็นตัวชี้วัดมาตรฐานของการเปลี่ยนแปลงราคาคู่สกุลเงิน การรู้จัก pip อย่างถูกต้องช่วยให้นักเทรดสามารถวางกลยุทธ์การเทรด กำหนด Stop Loss และ Take Profit ได้เหมาะสมตามความผันผวนของตลาด

ค่า pip ไม่ได้คงที่เสมอไป มูลค่าของมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดล็อต คู่สกุลเงิน อัตราแลกเปลี่ยน และสภาพคล่องของตลาด การคำนวณ pip อย่างถูกต้องจึงจำเป็นสำหรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ เพื่อให้สามารถประเมินผลกำไรหรือขาดทุนได้ตรงกับความเป็นจริงในบัญชีของตน การมองข้ามปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้การวางแผนการเทรดคลาดเคลื่อนและเพิ่มความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น

ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ