สรุป
ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ โดยมุ่งหน้าสู่การปรับขึ้นรายสัปดาห์ หลังวอชิงตันและปักกิ่งตกลงที่จะเจรจาการค้าเพิ่มเติมภายหลังการโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์และสี
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมากในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากได้รับข่าวว่าวอชิงตันและปักกิ่งตกลงที่จะเจรจาการค้าเพิ่มเติมภายหลังการโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์และสีจิ้นผิง
เจ้าหน้าที่กรุงเคียฟเผยเมื่อวันศุกร์ว่า รัสเซียยิงโดรนและขีปนาวุธพิสัยไกลเข้าใส่เป้าหมายหลายแห่งทั่วยูเครน การกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ทั้งสองประเทศไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในอิสตันบูลได้
ในขณะเดียวกัน อิหร่านก็เตรียมที่จะปฏิเสธข้อเสนอข้อตกลงนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่อผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่แห่งนี้ สมาชิกโอเปกพลัสทั้ง 2 ประเทศเสี่ยงที่จะเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดยิ่งขึ้น
ซาอุดีอาระเบียมีเจตนาจะพิจารณาเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันเพื่อแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด โดยซาอุดีอาระเบียได้ลดราคาน้ำมันสำหรับเอเชียลง เนื่องจากความต้องการน้ำมันลดลงจากภาษีที่เพิ่มขึ้น
ในแคนาดา ไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ในรัฐอัลเบอร์ตาส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันทรายมากกว่า 344,000 บาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นประมาณ 7% ของผลผลิตน้ำมันดิบทั้งหมดของประเทศ ตามการคำนวณของรอยเตอร์
ข้อมูลของ EIA ระบุว่าปริมาณน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าที่คาดไว้มากในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น โรงกลั่นน้ำมันในพื้นที่เร่งการผลิตเมื่อฤดูขับรถในช่วงฤดูร้อนเริ่มต้นขึ้น
ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ใกล้กับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 มาก และช่วงการซื้อขายล่าสุดยังคงอยู่ที่เดิม เราคาดว่าราคาน้ำมันจะร่วงลงราว 1 ดอลลาร์ในช่วงการซื้อขายถัดไป
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2025 ของ Newmont: ความแข็งแกร่งของราคาทองคำ การเติบโตของทองแดง และความเสี่ยงด้านการผลิต เป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างช่วงเวลาวิกฤตสำหรับนักเทรดและนักวิเคราะห์
2025-07-21
เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25%-4.50% ในเดือนกรกฎาคม ตลาดมองว่ามีโอกาส 50-64% ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมาย และข้อมูลตลาดแรงงานเริ่มอ่อนตัวลง
2025-07-21
ในวันศุกร์ ดัชนี FTSE 100 ขยับขึ้น หลังจากดัชนีสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ ทำ ATH โดยได้รับแรงหนุนจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงและยอดขายปลีกที่แข็งแกร่งในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
2025-07-21
