สรุป
ค่าเงินบาทวันนี้ 4 สิงหาคม 2568 แข็งสู้ 32.48 ต่อดอลลาร์ หลัง NFP แย่กว่าคาดการณ์ ทำหนุนราคาทอง รีบาวด์ 3,350-3,360
4 ส.ค. 2025 - ค่าเงินบาทวันนี้เปิดเช้าที่ระดับ 32.48 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นชัดเจนจากระดับ 32.87 บาทเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนหน้า นักวิเคราะห์จากสถาบันการเงินมองว่า การแข็งค่ารอบนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังตลาดรับรู้ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เดือนกรกฎาคมที่ออกมาแย่กว่าคาดการณ์ โดยตัวเลขเพิ่มขึ้นเพียง 73,000 ราย
อีกทั้งยังมีการปรับลดข้อมูลเดือนก่อนหน้า สะท้อนภาพการชะลอตัวของตลาดแรงงานสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ตลาดเพิ่มความคาดหวังว่าเฟดอาจจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น และอาจลดได้ถึง 2-3 ครั้งภายในปีนี้
ขณะที่ปฏิกิริยาของตลาดต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงเช่นกัน ราคาทองคำจึงดีดตัวขึ้นกลับเข้าสู่ช่วง 3,350-3,360 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนเงินบาทเองกลับมาเคลื่อนไหวในโซนแนวรับบริเวณ 32.40-32.50 บาทต่อดอลลาร์ โดยนักวิเคราะห์มองว่าเงินบาทในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มผันผวนสูงขึ้น และเผชิญความเสี่ยงเคลื่อนไหวได้ทั้งแข็งค่าและอ่อนค่า (two-way risk) ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะทิศทางของเงินดอลลาร์ และราคาทองคำในตลาดโลก
ปัจจัยที่ต้องติดตามในช่วงสัปดาห์นี้ ได้แก่:
ผลการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ซึ่งตลาดคาดว่าอาจมีการลดดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐาน
ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ เช่น ISM Services PMI และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งจะสะท้อนมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและทิศทางดอกเบี้ย
ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ที่จะช่วยชี้ภาพรวมการฟื้นตัวหรือการชะลอตัวของเศรษฐกิจในแต่ละภูมิภาค
ในมุมของเทคนิค นักวิเคราะห์ยังประเมินว่า หากเงินบาทกลับมาอ่อนค่าหลุดระดับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ และต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 50 วัน ก็อาจเข้าสู่แนวโน้มอ่อนค่าอีกครั้ง แต่หากตลาดยังเชื่อว่าเฟดมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยเพิ่ม โดยเฉพาะหากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังออกมาแย่กว่าคาด เงินดอลลาร์ก็อาจอ่อนค่าต่อ ส่งผลให้เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าทดสอบแนวรับ 32.30 หรือแม้แต่ 32.10 บาทต่อดอลลาร์ได้
อย่างไรก็ดี หากตลาดกลับมามีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเริ่มลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ย เงินดอลลาร์ก็อาจรีบาวด์กลับ ส่งผลให้เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าทดสอบแนวต้านบริเวณ 32.70-32.80 บาทต่อดอลลาร์
ในภาพรวม ค่าเงินดอลลาร์ยังมีแนวโน้มผันผวนสูง และเคลื่อนไหวในลักษณะ two-way risk เช่นเดียวกับเงินบาท โดยขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจและมุมมองของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางต่างประเทศ ทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ และญี่ปุ่น ขณะที่ผู้เล่นในตลาดควรพิจารณาใช้เครื่องมือปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอย่างหลากหลายมากขึ้น เช่น การทำสัญญา Forward, การใช้ Option และการใช้สกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency)
นอกจากนี้ ยังควรจับตาปัจจัยจากเศรษฐกิจภูมิภาคอื่น ๆ อย่างใกล้ชิด
สหรัฐฯ: ตลาดรอดูข้อมูล ISM Services PMI, Jobless Claims และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ว่าจะส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยต่อหรือไม่
ยุโรป: ผลการประชุม BOE และรายงานดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน รวมถึงยอดค้าปลีกของยูโรโซน จะเป็นปัจจัยที่สื่อถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาค
เอเชีย: ข้อมูลเศรษฐกิจจีน เช่น PMI ภาคบริการ, CPI, PPI และตัวเลขการค้าระหว่างประเทศ จะช่วยสะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจจีน รวมถึงนโยบายการเงินของญี่ปุ่นและอินเดียที่อาจผ่อนคลายมากขึ้น
ไทย: รายงานเงินเฟ้อเดือนกรกฎาคมคาดว่าจะยังติดลบต่อเนื่อง ขณะที่ความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงเป็นอีกปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง
โดยสรุป สถานการณ์ค่าเงินบาทและสกุลเงินหลักต่างๆ ยังคงเผชิญแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจและท่าทีของธนาคารกลางทั่วโลก ผู้เล่นในตลาดควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด พร้อมใช้กลยุทธ์บริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ยังเปราะบางและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใด ๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใด ๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
การลงทุนมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ของ Apple ในสหรัฐฯ ได้รับการยกเว้นภาษี ส่งผลให้ราคาหุ้นของ AAPL พุ่งขึ้นกว่า 7% เนื่องจากตลาดต่างพากันสนับสนุนการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ของบริษัท
2025-08-07
การนำเข้าทองแดงของจีนแสดงสัญญาณผสมในเดือนกรกฎาคม 2025 การเปลี่ยนแปลงนี้อาจช่วยกระตุ้นการเติบโตของสินค้าโภคภัณฑ์ท่ามกลางข่าวจากธนาคารกลางสหรัฐฯ และการเคลื่อนไหวของตลาดสกุลเงินหรือไม่?
2025-08-07
ดัชนี Nikkei 225 พุ่งขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีหลังจากคำมั่นของทรัมป์ในการเรียกเก็บภาษี 100% กับการนำเข้าชิปเซมิคอนดักเตอร์ แม้ว่ายักษ์ใหญ่ชิปจากเกาหลีใต้บางรายอาจได้รับการยกเว้น
2025-08-07
